ดาวโจนส์ปิดบวก 185 จุด หวังเฟดลดดอกเบี้ย-หุ้น Boeing หนุน

HoonSmart.com>>ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 2 ธ.ค. 2568 ปิดที่ 47,474.46 จุด เพิ่มขึ้น 185.13 จุด หรือ +0.39% ท่ามกลางการซื้อขายที่เงียบเหงา โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวสูงขึ้น Bitcoin ที่ฟื้นตัวหลังจากร่วงแรงในวันก่อนหน้า ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรกลับทรงตัว และยังมีความคาดหวังสูงว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,829.37 จุด เพิ่มขึ้น 16.74 จุด, +0.25%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,413.67 จุด เพิ่มขึ้น 137.75 จุด, +0.59%

หุ้นเทคโนโลยีที่โยงกับการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลับมาหนุนตลาดโดยรวมอีกครั้ง โดย NVIDIA ผู้นำด้านชิป AI เพิ่มขึ้นเกือบ 2% ขณะที่ Oracle ฟื้นตัวจากการลดลงในช่วงก่อนหน้า ส่วน Credo Technology ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน AI เพิ่มขึ้นประมาณ 17% หลังจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ขณะที่ Astera Labs เพิ่มขึ้นประมาณ 6%

ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีช่วยหนุนความเชื่อมั่นด้านความเสี่ยง ราคา Bitcoin พลิกกลับจากการร่วงลงอย่างหนักกว่า 5% ก่อนหน้านี้ และพุ่งขึ้น 5% ถึง 6% เหนือระดับ 90,000 ดอลลาร์ ส่วน Ether เพิ่มขึ้นกว่า 7%

นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลกลับมาอ่อนตัว นักลงทุนมีความคาดหวังต่อการตัดสินใจครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ มากขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ทรงตัวใกล้ระดับ 4.09% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 3.51%

ขณะนี้ เทรดเดอร์มองว่ามีโอกาสสูงที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค.โดยความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 89.2% ตามข้อมูลของ FedWatch Tool ของ CME เพิ่มขึ้นจาก 63% เมื่อเดือนที่แล้ว

อย่างไรก็ตามการรายงานดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Personal Consumption Expenditures Index) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญในวันศุกร์นี้ อาจช่วยเสริมการคาดการณ์เกี่ยวกับนโยบายของธนาคารกลางในสัปดาห์หน้า

ตลาดยังจับตาผู้ที่อาจรับตำแหน่งต่อจากเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ซึ่งวาระจะสิ้นสุดลงในปีหน้า โดยมีรายงานบ่งชี้ว่าเควิน แฮสเซ็ตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว อาจเป็นตัวเต็ง ทรัมป์กล่าวเมื่อวันอังคารว่าเขาจะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือกในช่วงต้นปีหน้า

ข่าวความเคลื่อนไหวหุ้นรายตัวก็มีผลต่อตลาด ราคาหุ้น Boeing พุ่งขึ้น 10.1% ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญที่สุดต่อดัชนีดาวโจนส์ ประมาณ 117 จุด หลังจากที่ผู้บริษัทคาดการณ์ว่าจะมีการส่งมอบเครื่องบินรุ่น 737 และ 787 ที่มากขึ้นในปีหน้า Boeing ยังได้หนุนดัชนี S&P 500 Industrials ให้เพิ่มขึ้น 0.9% ทำให้เป็นดัชนีที่ปรับขึ้นดีที่สุดในบรรดา 11 กลุ่มหลักของ S&P

หุ้น Procter & Gamble ลดลง 1.1% หลังจากที่บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคบรรจุภัณฑ์แห่งนี้ได้รับผลกระทบจากการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ

หุ้น Warner Bros Discovery เพิ่มขึ้น 2.8% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทได้รับข้อเสนอซื้อกิจการรอบที่สอง รวมถึงข้อเสนอจาก Netflix

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ การฟื้นตัวจากที่ร่วงลงในวันก่อนหน้าเป็นไปอย่างระมัดระวัง ขณะที่หุ้น Bayer พุ่งขึ้นจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนมาตรการควบคุมการฟ้องร้องในคดีความที่เกี่ยวข้องกับยาฆ่าหญ้า Roundup

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 575.65 จุด เพิ่มขึ้น 0.38 จุด, +0.07%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,701.80 จุด ลดลง 0.73 จุด, -0.01%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,074.61 จุด ลดลง 22.39 จุด, -0.28%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,710.86 จุด เพิ่มขึ้น 121.42 จุด, +0.51%

หุ้น Bayer พุ่งขึ้นกว่า 12% สู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบสองปี หลังจากที่รัฐบาลทรัมป์เรียกร้องให้ศาลฎีกาสหรัฐฯ ในวันจันทร์ พิจารณาคำขอของบริษัทในการจำกัดคดีความหลายพันคดีที่อ้างว่ายาฆ่าหญ้า Roundup ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง

การปรับขึ้นของ Bayer ช่วยหนุนดัชนีกลุ่มเฮลท์แคร์โดยรวมให้เพิ่มขึ้น 0.2% และกลบการลดลงจากหุ้น Novo Nordisk ซึ่งเป็นผู้ผลิต Wegovy ที่ลดลง 2.3%

กลุ่มธนาคารปรับขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 7 โดยเพิ่มขึ้น 1.1% การปรับตัวขึ้น 1.4% ของ Banco Santander เป็นแรงหนุนที่มากที่สุด หลังจากที่ได้ขายหุ้น 3.5% ใน Santander Bank Polska ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ หุ้น Santander Bank Polska ลดลง 5.8%

หุ้น Erste Group ธนาคารในกรุงเวียนนาเพิ่มขึ้น 3.7% หลังจากที่ Barclays ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นจาก equal-weight เป็น overweight โดยอ้างถึงแนวโน้มการเติบโตเชิงบวกในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก

บริษัทด้านการป้องกันประเทศกลับมาเป็นที่สนใจ โดยหุ้นของบริษัทผลิตอาวุธ Rheinmetall และ Hensoldt พุ่งขึ้นเกือบ 3% ฟื้นตัวจากการร่วลงในวันก่อนหน้า

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้พบกับสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และจาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของทรัมป์ที่ ทำเนียบเครมลิน เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการยุติสงครามในยูเครน

นักลงทุนยังได้ประเมินข้อมูลใหม่ที่แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนเดือนที่แล้วพุ่งสูงขึ้นเกินคาด ซึ่งน่าจะทำให้ความหวังที่ธนาคารกลางยุโรปจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในเร็วๆ นี้ลดลง

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบมกราคม ลดลง 68 เซนต์ หรือ 1.15% ปิดที่ 58.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 72 เซนต์ หรือ 1.14% ปิดที่ 62.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–