HoonSmart.com>>”ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์” (III) คาดผลงานปี 68 โต 5% ต่ำกว่าเป้า เจอแรงกดดันจากค่าระวางที่ปรับตัวลงไปมาก แต่คาดหวังไตรมาส 4/68 จะฟื้นจากสัญญาณดูดีขึ้น และคาดปี 2569 จะกลับมาโต 15% YoY เล็งทำดีล M&A และบริการ ISO Tank จะรับรู้เต็มปี ด้านธุรกิจ Dangerous Goods Training (DGT) จองเต็ม Course ถึงไตรมาส 1/69 ส่วน AOTGA แนวโน้มค่อนข้างดีในไตรมาส 4 ทุกอย่างเริ่มลงตัว
นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานปี 2568 คาดว่าจะเติบโต 5% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้จะเติบโต 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากเจอแรงกดดันจากค่าระวางที่ปรับตัวลงไปมาก พร้อมคาดหวังไตรมาส 4/2568 จะฟื้น แม้ไตรมาส 4 ปีนี้จะไม่พีคเหมือนปกติ แต่มีสัญญาณที่ขึ้น และคาดว่าปี 2569 ผลงานของบริษัทจะกลับมาเติบโตได้ 15% YoY ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะทำได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดสรรดีล M&A อยู่
ปัจจัยในการขับเคลื่อนของธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ จะมาจาก Multimodal warehouse ที่มีฐานเติบโตต่อไป ในการทำคลังสินค้าในท่าอากาศยาน ซึ่งเป็นทั้งทางบก และการเชื่อมต่อทางบกต่อเครื่องบิน, ทางเรือต่อเครื่องบิน และยังมีการพัฒนาบริการ Airport Truck Link, การทำงานร่วมกันผ่านระบบนิเวศทางอากาศ (Eco-system) และเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ส่วนธุรกิจโลจิสติกส์เคมีภัณฑ์ มีการขยายบริการ ISO Tank ในช่วงครึ่งปีหลัง และจะรับรู้เต็มปีในปี 2569
นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายธุรกิจไปยังกลุ่มธุรกิจใหม่ ให้บริการคำปรึกษาและฝึกอบรมเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าอันตรายทางอากาศ ( Dangerous Goods Training (DGT) & Compliance Services) โดยเปิดสอนหลักสูตรฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองเกี่ยวกับการจัดการและการจัดการสินค้าอันตรายสำหรับการขนส่งทางอากาศ และได้รับการรับรองให้เป็นองค์กรฝึกอบรมสินค้าอันตรายจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)โดยเริ่มให้บริการในไตรมาส 4/2568 ขณะนี้ได้มีการจองเต็ม Course ไปถึงไตรมาส 1/2569
สำหรับ AOTGA แนวโน้มค่อนข้างดีในไตรมาส 4/2568 จากทุกอย่างเริ่มลงตัว จำนวนนักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามา และปี 2569 ถ้าไม่มีผลกระทบจากเรื่องอื่น ๆ ก็คิดว่าเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ AOTGA รายได้หลักยังมาจากสนามบินภูเก็ต เพราะเป็น Base หลักอยู่ที่นี่ โดยรวมแล้ว AOTGA น่าจะเติบโตต่อเนื่องได้ตามแผน
“SJWD ได้เข้ามาลงทุนกับกลุ่มบริษัทฯ และก็ช่วยกันบริหาร เป็นพันธมิตรร่วมกันมา ก็สานต่อ ซึ่งตอนนี้ทำร่วมกันมาหลาย Project มาก ทั้งในเรื่องของความเชี่ยวชาญที่ใกล้เคียงกันอันหนึ่ง และจะมาต่อยอดร่วมกันได้ก็คือ คลังสินค้าอันตราย ตัวสินค้า DG (Dangerous Goods)ทาง SJWD ก็มีคลังสินค้าอยู่ที่แหลมฉบัง ส่วนทางกลุ่ม III ก็มีคลังสินค้าถึง 3 หมื่นตารางเมตร ที่อยู่รอบเขตการท่าเรือ จะร่วมกันพัฒนาตัว DG Complex ขึ้น อยู่ในช่วงกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ สรุปได้ไม่เกินต้นปีหน้า
ส่วนธุรกิจขนส่งทางอากาศได้ร่วมมือกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของการให้บริการร่วมกัน ทั้งบริษัทได้บริการภาคพื้นมีการใช้ Data ใช้เรื่องระบบใดต่าง ๆ ซึ่งทางกลุ่ม SJWD ให้บริการ Data ก็ร่วมกันทำไปแล้วในการเรื่องศุลกากร การใช้รถบรรทุกร่วมกัน Cross border มีประมาณ 6-7 โครงการที่ได้ทำร่วมกันไปแล้ว ซึ่งจะมีที่เป็นรูปธรรมแน่นอนในปี 2569”
