ORI เป้ารายได้ปี 71 ที่ 1.7 หมื่นลบ. ไตรมาส 4 ดีขึ้นจากรับโอน 6 โครงการ

HoonSmart.com>>”ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้”(ORI) วางเป้ารายได้ปี 71 ขึ้นถึง 17,000 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 4/68 คาดดีขึ้นจากการทยอยโอน 6 โครงการ ซึ่งมากขึ้นกว่าทุกไตรมาส และจะเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่า 8,000 ล้านบาท ใช้แบรนด์ ORIGIN ที่สุขุมวิท และภูเก็ต ส่วน Warehouses ของ ALPHA มีเป้าหมายนำเข้ากอง REIT ในไตรมาส 4 พร้อมคาดปี 68 โครงการออกใหม่จะปิดที่ 13,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียม ช่วงนี้จะเน้นระบาย Ready to move

น.ส.กนกไพลิน วิไลแก้ว Chief Financial Officer บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า บริษัทฯมี Business Model ที่จะทำให้รายได้ และกำไรจะเติบโตใน 3 ปีข้างหน้า โดยวางเป้าหมายปี 2571 รายได้จะอยู่ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท ไตรมาส 4/2568 จะมีโครงการโอนทั้งหมดประมาณ 6 โครงการ ซึ่งโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เริ่มมีการโอนในไตรมาส 4/68 แล้วประมาณ 72% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด ทำให้ไตรมาส 4 รับรู้ผลประกอบการจากการทยอยโอนมากขึ้นกว่าทุกไตรมาส

ทั้งนี้ ในปี 2568 โครงการออกใหม่ของบริษัทฯจะปิดที่ 13,000 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 8,000 ล้านบาท และบ้านพักอาศัย 5,000 ล้านบาท ทางบริษัทฯประเมินถึงความเหมาะสมในการเปิดโครงการในแต่ละช่วงทำเลด้วย ซึ่งปีนี้จะไม่เน้นโครงการใหม่มากนัก แต่เน้นโครงการ Ready to move (พร้อมย้ายเข้าอยู่)

น.ส.กนกไพลิน กล่าวว่า ในไตรมาส 4/2568 จะมีโครงการเปิดใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท ใช้แบรนด์ ORIGIN Residences ทั้งที่สุขุมวิท และภูเก็ต ซึ่งที่ภูเก็ตได้เปิดออนไลน์ Booking ครั้งแรกของปีนี้ และมีการ Booking มาประมาณ 500 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของโครงการทั้งหมด ได้รับผลการตอบรับค่อนข้างดี ส่วน BRITINIA เปิดโครงการใหม่ปี 2568 ทั้งหมด 4 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท

“ไตรมาส 3/2568 Strong Backlog อยู่ที่ 40,980 ล้านบาท เป็นตัวที่ขายและรอรับรู้รายได้ใน 5 ปีข้างหน้า เป็นโครงการของบริษัท 22,993 ล้านบาท และส่วน JV มี 17,987 ล้านบาท ทาง ORI ก็มีแผน Backlog ที่ค่อนข้างแข็งแรง พยายามขาย และเติมเข้ามาเพิ่ม เพื่อให้มีรายได้ในอนาคตมากขึ้น”

ส่วน Warehouses ของ ALPHA ได้ปล่อยเช่าแล้ว 339,975 ตารางเมตร คิดเป็น 93% ของ Occupancy ทั้งหมด ซึ่งมีเป้าหมายที่จะนำเข้ากอง REIT ในไตรมาส 4/2568

ด้านการลงทุนในระยะยาว Occupancy Rate ทั้งกลุ่มอยู่ที่ 60% และในกรุงเทพ 77% ตอนนี้มีโรงแรมทั้งหมด 10 แห่ง มูลค่า 11,730 ล้านบาท ตามแผนการร่วมทุน จะมีแผนเดียวกันการลงทุน พัฒนา และดำเนินการขายได้ พอมีเสถียรภาพก็จะนำเข้ากอง REIT หรือ Private Fund อื่น ๆ จะเป็นไปตาม Business Model ของบริษัทฯ หลังจากที่ทาง ORI ก็จะเห็นกลุ่มโรงแรมมี Step แบบนี้ในทุก ๆ ปี

ส่วน Jump+ เริ่มต้นเปิดโครงการ ซึ่งน่าจะทยอยเปิดเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีหลัง โดยปี 2569 จะเน้นที่กรุงเทพ แต่จะยังไม่เปิดมากนัก เพราะจะเน้นระบาย Inventory และ Ready to move, ปี 2570 ค่อย ๆ เริ่มเปิดหลายโซนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโซนขอนแก่น รวมไปถึงระยอง ชลบุรี ที่จะทยอยหมด ก็จะเติมเข้าไปในโซน EEC เช่นกัน และปี 2571 จะมีเพิ่มโซนนนทบุรีเข้ามา เป็นเหมือนแหล่งชุมชน แหล่งงาน แหล่งอุตสาหกรรม และในแผน Jump+ ยังมีแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 7% ภายในปี 2571

“ช่วงนี้เป็นแผน Conservative และเน้นระบาย Ready to move เป็นโครงการอยู่ระหว่างพัฒนา และทยอยรับรู้ไป”

———————————————————————————————————————————————————–