HoonSmart.com>>”โอสถสภา” (OSP) คาดไตรมาส 4/68 จะเติบโตได้ดีกว่าไตรมาส 3 จากที่เป็นช่วงฤดูกาล และยังออกสินค้าใหม่ ๆ ในส่วนของเครื่องดื่มถึง 8 รายการ (8 SKU) รวมถึงจะมี Feminine Wipes ที่มีกลุ่ม”เบบี้มายด์”มาเป็นจุดขาย ส่วนปี 69 จะมุ่งเน้นวิธีการขาย และช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้น รวมถึงจัดแบรนด์สินค้าให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม แต่ละช่วงอายุ และจะส่งออกให้มากกว่าเดิม ส่วนงบลงทุนปีหน้าตั้งไว้ไม่เกิน 500 ล้านบาท ครึ่งหนึ่งจะใช้ลงทุนดิจิทัล
น.ส.รติพร ราษฎร์เจริญ Group Chief Financial officer บริษัท โอสถสภา (OSP) เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 4/2568 คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าไตรมาส 3 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลด้วย สิ่งที่จะขับเคลื่อนในปี 2569 จะเน้น 2 ส่วน ส่วนแรก Route to Market วิธีการขาย และช่องทางจำหน่าย ได้มากกว่าเดิม อันที่สองเป็นเรื่องของ Brand จัดแบรนด์ให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม แต่ละช่วงอายุ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
อันที่ 3 จะมุ่งเน้นการส่งออกให้มากกว่าเดิม เพราะการเติบโตในประเทศไทยอาจไม่หวือหวา ดังนั้นธุรกิจในต่างประเทศจะยังเติบโตต่อไป และคาดว่าจะเติบโตได้เร็วกว่าในประเทศ สุดท้าย Operational Excellence ยังต้องทำต่อไป ให้ครบทุกขั้นตอน ค่าใช้จ่ายที่ใช้ต้องทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ในส่วนของเรื่องคน ระบบ และ Governance เหล่านี้คือสิ่งที่ทำและสร้างให้เป็นองค์ที่มีวัฒนธรรม ทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม ส่วน Digital ทำยังไงให้สามารถมี Data องค์กร และบริษัทลูกทั้งหมด แล้วสามารถเรียก Data ขึ้นมาใช้ได้ และส่วน Compliance Control เป็นสิ่งที่ให้สำคัญอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องงบลงทุน (CAPEX) ในปี 2569 ก็จะไม่มาก วางไว้ไม่เกิน 500 ล้านบาท ครึ่งหนึ่งจะนำมาใช้กับเรื่อง Digital นวัตกรรมเทคโนโลยี และการจัดจำหน่าย (Distribution)
“ด้านการขาย Premium Segment ที่ทำอยู่ ปี 2569 ก็จะทำมากขึ้น…เป็นเรื่องของสิทธิ์ที่อาจจะมีราคาสูงขึ้น เช่น 15 บาท 20 บาท 25 บาท ซึ่ง”โอสถสภา”เป็นองค์กรที่อยากจะ Drive Category ส่วนของ Energy Drink ให้เติบโตอยู่แล้ว จริงๆ สัปดาห์ที่ผ่านพึ่งจะ Launch ลิโพ M-150 ในราคา 15 บาท ก็ได้รับการตอบรับดีมาก ทั้ง Volume และ Value ก็เติบโต อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งทำให้ตลาด Energy Drink เติบโตขึ้น”
ส่วนไตรมาส 4/2568 ยังเห็น Innovation ใหม่ ๆ ที่ออกมาในเรื่องของเครื่องดื่มมากพอสมควร มีประมาณ 8 รายการ (8 SKU) และจะมี Feminine Wipes ซึ่งเครื่องดื่มจะมี M-150 มัทฉะ, คาสพิส แลคโตะ จะมีถึง 5 SKU ทั้งโซดาแคน, เจแปนนิสอุเมะ และกลิ่นส้ม ซึ่งตรงนี้จะอยู่ในร้านสะดวกซื้อช่วงหนึ่ง และจะหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านล็อตอื่นมาแทนในอนาคต ส่วนตัวที่จะยืนนานจะเป็น”เลมอนฮันนี่” จะอยู่ในร้าน 7-11 ต่อ อีกตัวที่จะขายดีเป็น “Beauti Edition” เป็นเรื่องของระบบย่อยอาหาร และเข้าฤดูหนาวก็จะมี C-vitt กลิ่นลิ้นจี่ ทั้งนี้ อะด้าว Segment มีการเติบโตดี และมีมาร์จิ้นสูง ส่วน Feminine Wipes ก็ใช้ความอ่อนโยน โดยมีกลุ่มเบบี้มายด์มาเป็นจุดขาย น่าสนใจเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังคงแสวงหาตลาดใหม่ ๆ ที่มี Growth Potential ทำให้สามารถสร้างการเติบโตได้ ส่วน Route to Market คงจะปรับอยู่ตลอด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าของบริษัทฯมีอยู่ในทุกร้าน เพื่อที่ลูกค้าจะได้หยิบซื้อหาได้ รวมถึง Operational Excellence ช่วยในเรื่องการควบคุมค่าใช้จ่าย ผ่านการปรับปรุงกระบวนการและวินัยด้านประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างอัตรากำไร

