ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่อเนื่องแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/60 กังวลอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด แนวโน้มเศรษฐกิจโลกเติบโตชะลอตัว “ไทยออยล์” คาดสัปดาห์นี้ WTI เคลื่อนไหว 43 – 48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เบรนท์ 52 – 57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
บริษัท ไทยออยล์ รายงานราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่อเนื่อง จากความกังวลปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาด ปิดตลาดวันที่ 21 ธ.ค. 61 ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิด 45.59 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 0.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หรือ -0.6% ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิด 53.82 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 0.53 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หรือ -1%
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน นับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2560 จากความกังวลด้านภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด อีกทั้งนักลงทุนยังซื้อขายด้วยความระมัดระวังก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดในสัปดาห์หน้า
ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลัง Baker Hughes รายงานตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ ณ วันที่ 21 ธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 แท่น แตะระดับ 883 แท่น ซึ่งถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.ที่ ผ่านมา ปัจจุบันสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันดิบราว 11.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งยังส่งผลให้สหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกแซงหน้ารัสเซียและซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมีการผลิตน้ำมันราว 11.4 และ 11.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ
นอกจากนี้การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันดิบโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมันดิบในระยะนี้
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันได้รับปัจจัยบวกจากโอเปกเตรียมที่จะเปิดเผยรายลเอียดของโควต้าในการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาดว่ากลุ่มโอเปกจะมุ่งมั่นในการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาสมดุลของตลาดน้ำมันดิบ
บริษัท ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ WTI เคลื่อนไหวในกรอบ 43 – 48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 52 – 57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล