บิ๊ก MMM เก็บหุ้นเข้าพอร์ต ย้ำ ! ธุรกิจบริการเทรดกลุ่มอสังหา ฯ

HoonSmart.com >> บิ๊ก  “MMM” ควักกระเป๋า 16.5 ลบ. เก็บหุ้นเข้าพอร์ตเพิ่ม 3 ล้านหุ้น ราคา PO  5.50 บาท  ตอกย้ำความเชื่อมั่น ย้ำ!!  MMM คือธุรกิจบริการ  หุ้นเทรดในกลุ่มอสังหา ฯ 

 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59) ปรากฏชื่อ นายสุริยา วงศ์สิทธิชัยกุล  ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ก่อตั้ง บริษัท เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล  (MMM) ซื้อหุ้น MMM จำนวน 3 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 5.50 บาท มูลค่าเงินลงทุน 16.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 พ.ย. วันแรกที่หุ้นเข้าซื้อขายในตลาด mai ภายหลังการซื้อ รวมถือหุ้น 8.5 ล้านหุ้น

สำหรับ MMM เป็น ผู้นำด้านตัวแทนการขายอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การให้บริการที่ปรึกษาด้านการขายและการตลาดแก่ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาฯ และซื้อขายอสังหาฯ แบบครบวงจร

ทั้งนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ กลุ่มนางสาวณิชา และ นายสุริยา ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้ง ประกาศ Lock up หุ้นทั้งหมด 100% เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน

นายสุริยา วงศ์สิทธิชัยกุล  กล่าวว่า เชื่อมั่นศักยภาพความแข็งแกร่งของ MMM รวมถึงเห็นโอกาส การต่อยอดและการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต พร้อมประกาศย้ำชัด “MMM คือบริษัท Service ที่เข้ามาเทรดใน Sector Property”

ปีนี้บริษัทฯ มั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดด และสามารถสร้าง “All Time High” ได้อย่างมีนัยสำคัญ  เห็นได้จากผลประกอบการงวดล่าสุด 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 102.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155.84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY) คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 18.33%

รายได้จากการขายและบริการรวม 561.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171.51% (YoY) แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของโมเดลธุรกิจและความต้องการในบริการของบริษัทที่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

จากปัจจัยข้างต้น ส่งผลให้ตัดสินใจซื้อหุ้นเพิ่มในจำนวนดังกล่าว ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ขอให้นักลงทุนเชื่อมั่นทีมคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ ที่จะนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จ ภายใต้การขับเคลื่อนธุรกิจตามแผนการระดมทุนที่วางไว้ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

ด้านนางสาวณิชา โรจน์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MMM กล่าวว่า  บริษัทฯ เร่งเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องตามกลยุทธ์ที่วางไว้  นำเงินที่ได้จากการระดมทุน จำนวน 287.10 ล้านบาท ไปขยายการลงทุนใน 3 ธุรกิจหลัก ทั้ง ที่ปรึกษางานขายโครงการ (BU1) โดยเป็นตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์แต่เพียงผู้เดียว ให้กับเจ้าของโครงการ การบริหารงานขายโครงการ

(BU2) เป็นตัวแทนขายและรับประกันการขายแต่เพียงผู้เดียว และให้บริการบริหารงานขายแบบวางหลักประกันการซื้อ (Hybrid) และการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ (BU3) ภายใต้แนวคิด“เพื่อนคู่คิด นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์” ที่มีเครือข่ายนายหน้าอิสระขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจ ที่เชื่อมถึงกลุ่มลูกค้า

รวมถึงการมีทรัพย์พร้อมขายโดยไม่มีต้นทุนพัฒนาโครงการ ไม่ต้องรอระยะเวลาพัฒนา ไม่ต้องรับประกันและให้บริการหลังการขาย ที่สำคัญสามารถเลือกทรัพย์ที่พร้อมขายและทำเล ที่ต้องการได้ และสามารถบริหารหลายโครงการพร้อมกันทั่วประเทศ

บริษัทฯ วางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจโค้งสุดท้าย ปี 2568 โดยเชื่อมั่นว่าความสำเร็จ ในการนำเอารูปแบบโมเดล 3 ธุรกิจการให้บริการหลัก ได้แก่ “ธุรกิจ Pre AMC-ธุรกิจโบรกเกอร์อสังหาฯ และธุรกิจมินิมาร์ทอสังหาฯ” จะสร้างรายได้การเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะนอกจากจะตอกย้ำประสบการณ์การเป็นผู้นำด้านตัวแทนการขายอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การให้บริการที่ปรึกษาด้านการขายและการตลาดแก่ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาฯ และซื้อขายอสังหาฯ แบบครบวงจร ยาวนานกว่า 20 ปีแล้ว

ด้วยกลยุทธ์ Pre-AMC ที่มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนสูงผ่านการบริหารจัดการทรัพย์สินก่อนเข้า สู่กระบวนการ AMC เพื่อลดต้นทุน จะสามารถเพิ่มมาร์จิ้น และเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการที่กำลังเผชิญปัญหาทางการเงิน โดยการวางตำแหน่งของบริษัทในการเป็น “มินิมาร์ท อสังหาริมทรัพย์” ในการเป็นคนกลาง เชื่อมระหว่างผู้พัฒนาโครงการ และนายหน้าอิสระขนาดใหญ่

วางเป้าขยายพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ แตะระดับ 10,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท

โดยล่าสุดบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับ Developer รายใหม่อีกหลายราย ทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งหากสามารถปิดดีลได้ จะช่วยเพิ่มความหลากหลายของโครงการ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจในระยะยาว