HoonSmart.com >> ” ทริพเพิล ไอ” (III) โชว์ไตรมาส 3/68 กำไร 101.22 ล้านบ. เติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากธุรกิจหลักและรับรู้รายได้จากการขยายธุรกิจใหม่
บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุด 30 ก.ย. 2568 กำไรสุทธิ 101.22 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.13 บาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.87 ล้านบ. หรือ 0.86% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 100.35 บาท กำไรต่อหุ้น 0.128 บาท
งวด 9 เดือน กำไรสุทธิ 283.36 ล้านบ. กำไรต่อหุ้น 0.366 บาท ลดลง 34.3 ล้านบ. หรือ 10.79% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน กำไร 317.66 ล้านบ. กำไรต่อหุ้น 0.405 บาท
บริษัท ฯ สรุปไตรมาส 3/2568 กำไรเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ซึ่งการเติบโตดังกล่าวโดยหลักมาจากการขยายตัวของธุรกิจ
Organic ทั้งจากกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ ที่มีปริมาณขนส่งสินค้าสินค้าทางทะเลเพิ่มขึ้นอย่างมาก และการเริ่มรับรู้รายได้ของกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศจากการขยายธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อสร้าง Aviation Ecosystem ในช่วงตลอดหลายไตรมาสที่ผ่านมา
ทั้งจากการร่วมมือกับ AOTGA ในการให้บริการคลัง Multimodal Warehouse ที่รองรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ต่อเนื่องหลายรูปแบบ เพื่อที่จะขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ การให้บริการการขนส่งสินค้าเชื่อมต่อระหว่างท่าอากาศยานหลักของไทยยัง
(Airport Truck Link) และการให้บริการ Truck Flight ที่พัฒนาและต่อยอดจากการให้บริการของ Airport Truck Link ที่ไม่เพียงเชื่อมต่อแค่ท่าอากาศยายภายในประเทศแต่ยังเชื่อมต่อไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียนด้วย
รวมถึงการมุ่งเน้นการทำSynergy อย่างต่อเนื่อง ทั้งภายในกลุ่มบริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจ สอดคล้องตามกลยุทธ์เพิ่มรายได้ลดรายจ่ายและขยายโอกาส
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการการปรับโครงสร้างธุรกิจคลังสินค้าทั่วไปที่ผลดำเนินงานขาดทุนในตลอดหลายไตรมาสที่ผ่านมาให้พลิกกลับมามีกำไร ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมความสามารถในการทำไรของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้
แผนธุรกิจดังกล่าว เป็นการสร้างจุดแข็งและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ในการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ของโลก
ขณะที่ธุรกิจ Inorganic บริษัทฯ เชื่อว่ามียังศักยภาพในการเติบโตอีกมากในระยะยาว แม้ว่าจะมีผลด าเนินงานในไตรมาสนี้
สามารถฟื้ นตัวจากไตรมาสที่ผ่านมา แต่ยังไม่เป็นไปตามเป้าที่บริษัทฯ คาดหวังไว้ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการของ AOTGA จากปริมาณเที่ยวบินที่ให้บริการลดลงสอดคล้องกับการชะลอตัวของจ านวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งเป็นผลมาจากภาพลักษณ์ความปลอดภัยและเหตุการณ์บางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ผลกระทบดังกล่าวเป็นปัจจัยในระยะสั้นและคาดว่าน่าจะฟื้นตัวในระยะเวลาอันใกล้ รวมทั้งปัจจัยบวกจากการชนะประมูลคัดเลือกผู้ประกอบการรายที่ 3 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ชั้นนำของโลกภายในระยะเวลา 3-5 ปีและการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยจะเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนที่จะส่งผลให้ผลประกอบการของ AOTGA ของเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
———————————————————————————————————————————————————–

