ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสต็อกน้ำมันลดลง แต่ตบาดยังถูกกดดันหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย หนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็ง หวั่นฉุดเศรษฐกิจชะลอ ใช้น้ำมันลดลง
บริษัท ไทยออยล์ รายงานราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA)รายงานปริมาณน้ำมันดีเซลและอากาศยานคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 4.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 573,000บาร์เรล โดยอุปสงค์ของน้ำมันดีเซลและอากาศยานปรับตัวสูงขึ้น สู่ระดับสูงสุดตั้งแต่ ม.ค. 46
ด้านปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 497,000บาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลงถึง 2.4ล้านบาร์เรล โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯได้ปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันแล้ว
อย่างไรก็ตามตลาดน้ำมันดิบยังคงถูกกดดัน หลังธนาคารกลาง (เฟด) ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 2.5 ส่งผลให้ค่าเงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจและลดความต้องการใช้น้ำมันลง
ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากผู้ผลิตรายใหญ่ ประกอบด้วย สหรัฐฯ รัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย อยู่ในระดับใกล้เคียงปริมาณการผลิตสูงสุดของแต่ละประเทศ โดยกำลังการผลิตของรัสเซียในเดือน ธ.ค. 61อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 11.42ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงกว่าสถิติการผลิตสูงสุดในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ระดับ 11.41 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดวันที่ 19 ธ.ค. 61 อยู่ที่ 47.20 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.98 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ส่วนเบรนท์ปิด 57.24 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.98 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล