HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดทำนิวไฮ ดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 161 จุด แรงหนุนหุ้นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) นำโดย Nvidia ผสมมุมมองทางบวกต่อผลประกอบการ นักลงทุนยังจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 28ตุลาคม 2568 รวมทั้งดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI)ที่นำโดย Nvidia มากขึ้น ประกอบกับมุมมองทางบวกต่อผลประกอบการ ขณะที่จับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,706.37 จุด เพิ่มขึ้น 161.78 จุด, +0.34%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,890.89 จุด เพิ่มขึ้น 15.73 จุด, +0.23%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,827.49 จุด เพิ่มขึ้น 190.04 จุด, +0.80%
การปรับขึ้นของตลาดนำโดย Nvidia ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 5% และทำสถิติสูงสุดใหม่ หังเจนเซน หวง ซีอีโอ กล่าวในงาน GTC ว่าอุตสาหกรรม AI ได้ “พลิกโฉม” ขณะเดียวกันก็ประกาศความร่วมมือใหม่ๆ มากมาย ซึ่งรวมถึงความร่วมมือกับบริษัท Nokia จากฟินแลนด์ โดย Nvidia จะเข้าซื้อหุ้นมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน Nokia ซึ่งจะนำเงินที่ได้ไปสนับสนุนแผนพัฒนา AI บางส่วน นอกจากนี้บริษัทจะสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI จำนวน 7 เครื่องให้กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ และบริษัทมียอดจองชิป AI มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์
Nvidia กำหนดรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามหลังปิดตลาดในวันที่ 19 พฤศจิกายน
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจาก Microsoft ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 2% หลังจากการปรับโครงสร้างเป็นบริษัทเพื่อสาธารณประโยชน์(Public Benefit Corporation – PBC)ของ OpenAI ส่งผลให้ Microsoft ได้ถือหุ้นประมาณ 27% ใน OpenAI Group
มูลค่าหุ้นของ Microsoft กับ Apple ทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์ในชั่วโมงซื้อขาย
นักลงทุนยังมีมุมมองทางบวกต่อผลประกอบการ ก่อนการรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ของ Microsoft และบริษัทในกลุ่มMagnificent Seven อีกจำนวนหนึ่ง เช่น Apple, Alphabet, Amazon และ Meta Platforms ซึ่งทั้ง 5 บริษัทนี้รวมกันคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณหนึ่งในสี่ของดัชนี S&P 500
ไมค์ ดิกสัน จาก Horizon Investments ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าฤดูกาลประกาศผลประกอบการเริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม บริษัทต่างๆ ใน S&P 500 ประมาณหนึ่งในสามได้รายงานผลประกอบการแล้ว โดย 83% ของจำนวนดังกล่าวมีผลประกอบการสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตามข้อมูลของ FactSet
สำหรับหุ้นที่รายงานผลประกอบการเมื่อวานได้แก่ Visa, UnitedHealth, United Parcel Service และ PayPal ซึ่งดีกว่าที่คาด
นักลงทุนยังจับตาการประชุมของ เฟดที่เริ่มขึ้นแล้วเมื่อวานนี้ โดยคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมที่จะเสร็จสิ้นวันที่ 29 ตุลาคมนี้ นักลงทุนยังหวังสัญญาณจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีในเดือนธันวาคม
ในประเด็นด้านการค้า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ชื่นชมนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ขณะที่สหรัฐฯ ลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับแร่ธาตุหายากและการค้ากับญี่ปุ่นเมื่อวันอังคาร การเคลื่อนไหวนี้ควบคู่ไปกับข้อตกลงอื่นๆ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสำคัญระหว่างทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันพฤหัสบดี
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ ADP รายงาน การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 14,250 ตำแหน่งต่อสัปดาห์ ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ หลังจากทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันสามวัน เนื่องจากนักลงทุนหันไปให้ความสำคัญกับผลประกอบการของบริษัทต่างๆ แทนความคืบหน้าทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 575.76 จุด ลดลง 1.27 จุด, -0.22%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,696.74 จุด เพิ่มขึ้น 42.92 จุด, +0.44%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,216.58 จุด ลดลง 22.60 จุด, -0.27%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,278.63 จุด ลดลง 30.15 จุด, -0.12%
ดัชนี IBEX 35 ซึ่งเป็นหุ้นบลูชิพของสเปน ทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2007 ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% การเติบโตของธนาคารสเปนช่วยหนุนดัชนีนี้ให้ปรับขึ้นแซงหน้าภาคธนาคารในยุโรปโดยรวม
ดัชนีของฟินแลนด์ปิดตลาดสูงขึ้น 1.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่าสามปี หุ้น Nokiaพุ่งขึ้นกว่า 20% สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2016 หลังจากที่ Nvidia บริษัทผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประกาศว่ามีแผนลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในผู้ให้บริการอุปกรณ์โทรคมนาคมรายนี้
ดัชนีโทรคมนาคมโดยรวมปรับขึ้น 2.2%
หุ้นใหญ่ในกลุ่มเฮล์แคร์ร่วงลง 1.7% โดยNovartisบริษัทผลิตยาสัญชาติสวิส ลดลง 4.2% แม้กำไรในไตรมาสที่สามออกมาตามคาด
ภาคก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างของยุโรปลดลง 0.8% โดยถูกฉุดจากการร่วงลง 5.9% ของบริษัทเคมีภัณฑ์ Sika หลังจากมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
ภาคธนาคารเพิ่มขึ้น 0.8% โดยหุ้น HSBC เพิ่มขึ้น 4.6% หลังจากปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้และให้คำมั่นว่าจะเข้าสู่โหมดเติบโตด้วยการเข้าซื้อกิจการธนาคาร Hang Seng ดัชนี FTSE 100 ของลอนดอนพุ่งขึ้นแตะระดับ 9,700 จุดเป็นครั้งแรก
แต่การปรับขึ้นของกลุ่มธนาคารถูกจำกัดด้วยหุ้น BNP Paribas ที่ลดลง 3.5% หลังจากที่ธนาคารฝรั่งเศสแห่งนี้คาดการณ์กำไรไตรมาสสามต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.16 ดอลลาร์ หรือ 1.89% ปิดที่ 60.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.86% ปิดที่ 64.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

