HoonSmart.com>>ฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ชี้ธุรกิจ ร้านสะดวกซื้อ/มินิมาร์ท ในระยะ 1 ปี ข้างหน้ามีแนวโน้ม “Neutral +” อุปสงค์ยังได้แรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน กลุ่มรายได้ระดับกลางถึงสูง แต่ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มสูงขึ้น
ฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH BANK)วิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ ร้านสะดวกซื้อ/มินิมาร์ท ในระยะ 1 ปีข้างหน้า มีแนวโน้มขยายตัวภายใต้แรงกดดันแม้ว่าธุรกิจจะยังได้รับแรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภครายได้ระดับกลางถึงสูงที่ยังคงมีศักยภาพในการใช้จ่าย

อย่างไรก็ตาม ยังมีภาวะกดดันจากต้นทุนการดําเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรงจากการผูกขาดโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ จํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมีนัยสําคัญ ตามการลดลงของนักท่องเที่ยวจีน ที่เกิดจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว รวมถึงปัญหาความไม่สงบที่ยังคงเกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวในระยะถัดไป(จากข้อมูลจํานวนนักท่องเที่ยวมาเลเซียในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 ลดลง7.2%YoY) การแข่งขันจากประเทศปลายทางอื่น เช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม และสิงคโปร์ส่งผลกระทบโดยตรงต่อร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ท่องเที่ยวและแหล่งชุมชน
นอกจากนี้ จากสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงและการผูกขาดโดยผู้ประกอบการรายใหญ่เพียงไม่กี่รายในตลาด ยังคงเป็นอุปสรรคสําคัญ ส่งผลให้โอกาสในการเข้าสู่ตลาดของผู้เล่นรายใหม่ยังคงมีข้อจํากัดอย่างมาก
ทั้งนี้ กลยุทธ์การขยายสาขาอย่างรวดเร็วซึ่งเคยเป็นแกนหลักในการสร้างการเติบโต ปัจจุบันกําลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาอัตรากําไรที่เหมาะสม ท่ามกลางต้นทุนการดําเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้นและการแข่งขันด้านราคาที่ทวีความรุนแรงประกอบกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคส่งผลให้ร้านสะดวกซื้อต้องปรับตัวด้วยการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความสะดวกในการซื้อสินค้าใกล้บ้าน
ในขณะเดียวกัน การสร้างจุดยืนทางการตลาดที่แตกต่างกันของแต่ละแบรนด์กลายเป็นกลยุทธ์สําคัญในการแข่งขัน ตัวอย่างเช่น 7-Eleven ยังคงมุ่งเน้นการเป็น ‘ร้านอิ่มสะดวก’ ที่ครบวงจรพร้อมขยายบริการดิจิทัล

ในขณะที่ CJ Supermarket เน้นกลยุทธ์ราคาประหยัดเพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่มีกําลังซื้อลดลง
ส่วน Lotus’s Go Fresh และ Mini Big C ปรับโฟกัสไปที่การเสนอสินค้าสดและอาหารพร้อมรับประทานคุณภาพสูง
การกําหนดตําแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจนและตอบโจทย์สถานการณ์ปัจจุบันนี้ช่วยให้แต่ละแบรนด์สามารถรักษาฐานลูกค้าและส่วนแบ่งทางการตลาดในช่วงที่ภาพรวมอุตสาหกรรมเผชิญกับความท้าทาย
อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการควรให้ความสําคัญกับการเลือกทําเลที่มีศักยภาพและบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเร่งขยายช่องทางออนไลน์ เพื่อให้สามารถตอบสนองผู้บริโภคและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระยะถัดไป
