HoonSmart.com>>ก.ล.ต.เผยตั้งแต่ต้นปี -15 ต.ค.68 ดำเนินคดีอาญา กล่าวโทษผู้กระทำผิดต่อ บก.ปอศ.-DSI รวม 12 คดี ผู้กระทำความผิดรวม 47 ราย เกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์,สินทรัพย์ดิจิทัล กรณีสร้างราคา,อินไซด์,เผยแพร่ข่าว ข้อความเท็จ, Front run ส่วนมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 18 คดี ผู้กระทำผิด 89 ราย

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการและโฆษก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ในปี 2568 (ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 15 ต.ค.) ก.ล.ต.ได้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายในคดีอาญา โดยกล่าวโทษผู้กระทำผิดต่อพนักงานสอบสวน (บก.ปอศ. และ DSI) รวม 12 คดี ผู้กระทำความผิดรวม 47 ราย โดยเป็นฐานความผิดการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์/สินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ การสร้างราคา การแพร่ข่าว/ข้อความเท็จ และซื้อ/ขายหลักทรัพย์ก่อนทำรายการซื้อขายของกองทุน (Front run) รวม 6 คดี ผู้กระทำความผิดรวม 18 ราย การทุจริต 1 คดี ผู้กระทำความผิด 2 ราย การแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งในสาระสำคัญ รวม 3 คดี ผู้กระทำความผิดรวม 16 ราย และประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต 2 คดี ผู้กระทำความผิด 11 ราย
ทั้งนี้ ในหลายกรณีเป็นการกระทำความผิดในช่วงปี 2567 หรือ ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลเมื่อปี 2567 เช่น
• กรณีสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น PK TKT และ PROS
• กรณีบอกกล่าว เผยแพร่ หรือให้คำรับรองข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวกับ THG
• กรณีตกแต่งงบการเงินของ JKN
• กรณีซื้อหรือขายหลักทรัพย์ก่อนทำรายการซื้อขายของกองทุน (Front run) โดยใช้ข้อมูลการลงทุนของกองทุน

ในปี 2568 (ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 15 ต.ค.) ค.ม.พ. ได้มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำผิดรวม 18 คดี จำนวนผู้กระทำความผิด 89 ราย เป็นฐานความผิดการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์/สินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ การสร้างราคา การใช้ข้อมูลภายใน/การเปิดเผยข้อมูลภายใน และการแพร่ข่าว/ข้อความเท็จ จำนวน 16 คดี ผู้กระทำความผิดรวม 86 ราย แสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งในสาระสำคัญ 1 คดี ผู้กระทำความผิดรวม 2 ราย และการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต 1 คดี ผู้กระทำความผิดรวม 1 ราย
ในช่วงเวลาเดียวกันมีผู้กระทำผิดมาตกลงทำบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด จำนวนรวม 31 ราย จาก 12 คดี โดยมีค่าปรับทางแพ่ง 117.54 ล้านบาท ชดใช้เงินเท่าผลประโยชน์ที่ได้รับ 64.14 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2560 ที่มีการนำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ มีผู้กระทำความผิดตกลงทำบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด จำนวน 308 ราย จาก 79 คดี โดยมีค่าปรับทางแพ่ง 2,149.68 ล้านบาท ชดใช้เงินเท่าผลประโยชน์ที่ได้รับ 450.65 ล้านบาท ซึ่งเงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำผิด เป็นรายได้แผ่นดินที่ ก.ล.ต. นำส่งกระทรวงการคลังแล้ว
สำหรับผู้กระทำผิดที่ไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ก.ล.ต. ได้มีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีผู้กระทำความผิดต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ
