หุ้นโตเกียว-เอเชียบวก GDP ไตรมาส 3 จีนโต 4.8% การเมืองญี่ปุ่นคลี่คลาย

HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นโตเกียว”เช้านี้ปรับขึ้น หลังมีข่าวพรรคเสรีประชาธิปไตยและพรรคนวัตกรรมญี่ปุ่น ตกลงจะจัดตั้งรัฐบาลผสม “ตลาดหุ้นเอเชีย” ส่วนใหญ่บวก จีนรายงานข้อมูล GDP ผสมแรงหนุนจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนคลี่คลาย

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับขึ้น โดยดัชนี Nikkei บวกกว่า 2% หลังจากมีข่าวว่าพรรคเสรีประชาธิปไตยและพรรคนวัตกรรมญี่ปุ่น (Innovation Party) ตกลงที่จะจัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งถือเป็นการปูทางไปสู่การมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ

นักวิเคราะห์คาดว่าซานาเอะ ทาคาอิชิ จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีผลทางลบต่อค่าเงินเยนแต่เป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น

ในตลาด Prime Market หุ้นที่ปรับตัวขึ้นหลัก ๆ ได้แก่ แก่หุ้นกลุ่มสินค้าเบ็ดเตล็ด กลุ่มประกัน และกลุ่มสารสนเทศ

ความไม่แน่นอนทางการเมืองคลี่คลายลง เนื่องจากมีแนวโน้มว่าทาคาอิจิจะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีในการลงคะแนนเสียงของรัฐสภาในวันอังคารนี้ จากการที่คาดว่าในช่วงบ่ายของวันจันทร์จะมีข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่างพรรค LDP และพรรคฝ่ายค้าน

ณ เวลา 9.57 น. ตามเวลาประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 48,970.40 จุด เพิ่มขึ้น 1,388.25 จุด, 2.92%

ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกปรับขึ้นเป็นส่วนใหญ่ นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น ท่ามกลางการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจากจีน และด้วยแรงหนุนจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่คลี่คลาย

สำนักงานสถิติจีนเผยเศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 3 เติบโต 4.8% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ลดลงจาก 5.2% ในไตรมาสก่อนหน้า และจาก 5.4% ในไตรมาสแรก อย่างไรก็ตามในรอบ 9 เดือนเศรษฐกิจจีนขยายตัว 5.2% และมีแนวโน้มเติบโตตามเป้า 5% ที่ทางการวางไว้

ส่วนยอดขายปลีกซึ่งเป็นมาตรวัดการบริโภคในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงจาก 3.4% ในเดือนสิงหาคม ด้านผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบรายปี

นอกจากนี้ธนาคารกลางจีนคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้น (Loan Prime Rate:LPR) โดยอัตราดอกเบี้ย LPR อายุ 1 ปีคงไว้ที่ 3% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR อายุ 5 ปีที่ 3.5%

ขณะเดียวกันผู้นำทางการเมืองของจีนเข้าร่วมการประชุมใหญ่ครั้งที่สี่ (Fourth Plenum) ที่กรุงปักกิ่งเป็นเวลาสี่วัน โดยนักลงทุนต่างจับตามาตรการใหม่ๆ ที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีนที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบแปดปีให้ต่อเนื่อง และพยุงค่าเงินหยวน

แม้ว่าแผนงานโดยละเอียดจะเผยแพร่ในเดือนมีนาคมปีหน้า แต่นักลงทุนจะพิจารณาสัญญาณนโยบายต่างๆ หลังการประชุมอย่างใกล้ชิด ก่อนการประชุมที่อาจเกิดขึ้นระหว่างประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนและประธานาธิบดีทรัมป์

ความเชื่อมั่นของนักลงทุนดีขึ้น ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนลดลง หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ และรองนายกรัฐมนตรีจีน เหอ หลี่เฟิง ได้หารือทางโทรศัพท์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ก่อนที่จะมีการประชุมกันระหว่างประธานาธิบดีของประเทศทั้งสอง

นอกจากนี้ในการให้สัมภาษณ์กับ Fox News เมื่อวันอาทิตย์ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบคำถามถึงคำขู่ที่จะขึ้นภาษีสินค้าจีน 100% ว่าการจัดเก็บภาษีนี้ “ไม่ยั่งยืน” แม้ว่า “อาจจะคงอยู่” และกล่าวเสริมว่าสหรัฐฯ จะ “ดี” กับจีน

นักลงทุนยังรอการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในวันศุกร์นี้แม้ว่ารัฐบาลยังปิดทำการ โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนกันยายน และให้น้ำหนัก100% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนนี้และลด 0.25% ในเดือนธันวาคม

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,876.31 จุด เพิ่มขึ้น 36.56 จุด, +0.95%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 25,895.69 จุด เพิ่มขึ้น 648.59 จุด, +2.57%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 3,798.76 จุด เพิ่มขึ้น 49.87 จุด, +1.33%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 27,646.37 จุด เพิ่มขึ้น 344.00 จุด, +1.26%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 0.15 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ซื้อขายที่ 61.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 0.17 ดอลลาร์หรือ 0.3% ซื้อขายที่ 57.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–