HoonSmart.com>>ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 17 ต.ค. 2568 ปิดที่ 46,190.61 จุด เพิ่มขึ้น 238.37 จุด หรือ +0.52% นักลงทุนขานรับท่าทีที่ผ่อนคลายลงของสหรัฐฯ ในการเจรจาการค้ากับจีน และก้าวข้ามความกังวลด้านคุณภาพสินเชื่อของธนาคารระดับภูมิภาค
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,664.01 จุด เพิ่มขึ้น 34.94 จุด, +0.53%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,679.98 จุด เพิ่มขึ้น 117.44 จุด, +0.52%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.6% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.7% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.1%
ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในการซื้อขายช่วงบ่าย หลังจากที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่าเขาจะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าจีนในเย็นวันศุกร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังกล่าวจากทำเนียบขาวว่าการประชุมกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนยังคงมีความเป็นไปได้ในช่วงปลายเดือนนี้ ความคิดเห็นดังกล่าวบ่งชี้ว่าการเก็บภาษีนำเข้าจีนเพิ่มเติม 100% ในวันที่ 1 พฤศจิกายนอาจไม่เกิดขึ้นจริง
ขณะที่หุ้นธนาคารในภูมิภาคเริ่มฟื้นตัวจากที่ร่วงลงครั้งใหญ่ในวันก่อนหน้าหลังจากที่มีการรายงานผลประกอบการเชิงบวกจำนวนมากในวันศุกร์จาก Truist Financial Corp.ที่เพิ่มขึ้น 3.7% ,Huntington Bancshares เพิ่มขึ้น 0.85% และ Fifth Third Bancorp บวก 1.3%ประกอบกับนักลงทุนคาดการณ์ว่า หนี้เสียของธนาคารภูมิภาคทั้ง Zions และ Western Alliance ที่เปิดเผยในวันพฤหัสบดีเป็นเพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวและไม่ใช่ส่วนหนึ่งของวิกฤตที่ใหญ่กว่านี้
หุ้น Zion และWestern Alliance กลับมากบวกจากที่นำการร่วงลงของกลุ่มธนาคารในวันพฤหัสบดี โดย Zions Bancorp เพิ่มขึ้นเกือบ 6% ในวันศุกร์ หลังจากได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตจาก Baird ซึ่งระบุว่ามูลค่าตลาดที่ลดลงของธนาคารระดับภูมิภาคแห่งนี้มากกว่าขนาดของหนี้เสีย หุ้น Western Alliance เพิ่มขึ้น 3.1%
ส่วน Jefferies อินเวสเม้นท์แบงก์ซึ่งเปิดเผยข้อมูลว่ามีหนี้เสียจาก First Brands บริษัทค้าปลีกอะไหล่รถยนต์ที่ล้มละลาย ก็ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 6% หลังจากที่ Oppenheimer ปรับเพิ่มอันดับเครดิตให้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
นักลงทุนยังเกาะติดการปิดทำการหน่วยงานรัฐที่ยังคงยืดเยื้อ ถือเป็นการปิดหน่วยงานที่ยาวนานที่สุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์ โดยสมาชิกรัฐสภาบางคนกังวลว่าการปิดหน่วยงานอาจยืดเยื้อไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน และอาจเลยวันขอบคุณพระเจ้าไปแล้ว เงินเดือนของพนักงานรัฐบาลกลางยังคงถูกระงับ เนื่องจากทรัมป์ขู่ว่าจะระงับการจ่ายเงินเดือนย้อนหลัง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากสัญญาณความตึงเครียดด้านสินเชื่อของสถาบันการเงินระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ สร้างความวิตกให้กับนักลงทุนและผลักดันให้หันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย
หุ้นธนาคารในยุโรปร่วงลง 2.5% โดยธนาคาร Deutsche Bank, Barclays รวมทั้ง Unicredit ของอิตาลี และ BNP Paribas ของฝรั่งเศส ต่างร่วงลงระหว่าง 3.3% ถึง 6.5%
หุ้นธนาคารในภูมิภาคของสหรัฐฯ ร่วงลงเมื่อวันพฤหัสบดีหลังจากสถาบันการเงินสองแห่งเปิดเผยถึงการทุจริตสินเชื่อ ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินเชื่อ จากการล้มละลายของธุรกิจรถยนต์สองแห่งในสหรัฐฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของภาคส่วนนี้
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 566.24 จุด ลดลง 5.42 จุด, -0.95%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,354.57 จุด ลดลง 81.52 จุด, -0.86%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,174.2 จุด ลดลง 14.39 จุด, -0.18%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,830.99 จุด ลดลง 441.2 จุด, -1.82%
อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มสินค้าหรูช่วยพยุงตลาดโดยรวม โดย EssilorLuxottica ผู้ผลิต Ray-Ban พุ่งขึ้น 13% มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจแว่นตา Ray-Ban Meta ที่ขับเคลื่อนด้วย AI มากขึ้น
กลุ่มสินค้าหรูยังเป็นกลุ่มที่ทำผลงานดีที่สุดในสัปดาห์นี้ โดยได้รับแรงหนุนจาก LVMH ซึ่งทำผลงานได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และรายงานยอดขายรายไตรมาสเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้
หุ้น Continental AG ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันเพิ่มขึ้น 11.3% หลังจากยอดขายเบื้องต้นในไตรมาสที่สามอยู่ที่ 5 พันล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย
การขาดข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อันเนื่องมาจากการปิดทำการของรัฐบาลที่นาน ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงคุกรุ่น รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าที่สูงเกินจริงในภาคเทคโนโลยี ล้วนเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดในสัปดาห์นี้
กลุ่มการบินและอวกาศและการป้องกันประเทศ ลดลง 3.6% หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ตกลงที่จะจัดการประชุมสุดยอดอีกครั้งเกี่ยวกับสงครามในยูเครน
หุ้น Novo Nordisk บริษัทผลิตยาสัญชาติเดนมาร์กร่วงลง 6.4% หลังจากที่ทรัมป์กล่าวว่าจะลดราคายาลดน้ำหนักที่ขายดีที่สุดของบริษัทลง และการเจรจาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงราคาจะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 57.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.38% ปิดที่ 61.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

