AIS ACADEMY for THAIs คึกคัก เปิดเวทียกระดับคุณภาพชีวิต

HoonSmart.com>> ปล่อยไม่กั๊ก! งาน AIS ACADEMY for THAIs | LIFE FEST 40+ เปิดเวทียกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยอินไซต์กูรูแถวหน้าของไทย ปลดล็อกไอเดียไร้ขีดจำกัด สู่วัยอิสระที่ยั่งยืน พร้อมโชว์ผลงานนวัตกรรมพลิกอนาคตผู้สูงอายุ–คนพิการ

 

วันแรกของงาน  AIS ACADEMY for THAIs | LIFE FEST 40+  คึกคักตั้งแต่เช้า  ผู้คนหลั่งไหลเข้าร่วมงาน กลายเป็นหมุดหมายสำคัญด้านการเรียนรู้ ตอกย้ำบทบาท AIS Academy บูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

บรรยากาศในงานอัดแน่นด้วยกิจกรรมทรงพลัง ไม่ว่าจะเป็นโครงการ JUMP THAILAND Hackathon 2025 เวทีนวัตกรรมยุค AI ที่ปลดล็อกศักยภาพคนรุ่นใหม่เพื่อต่อยอดโอกาสให้ผู้สูงอายุและคนพิการมีงานทำและรายได้อย่างยั่งยืน

เวทีกิจกรรม “ภารกิจคิดเผื่อ x Life Fest 40+” ที่รวมวิสัยทัศน์จากผู้นำทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนสังคมให้มั่นคง

สัมมนา “Life Hack 40+…รู้ก่อน ยังทัน” ที่เปิดครบทุกมิติชีวิตทั้งการเงิน สุขภาพ จิตใจ การใช้ชีวิต และดิจิทัล ไปจนถึงเวทีสัมมนา “Real Case มือถือเปลี่ยนชีวิต” ที่พิสูจน์ว่าสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องก็สามารถสร้างอาชีพ ขยายธุรกิจ และพลิกชีวิตได้จริง

งานนี้ไม่ใช่แค่เวทีแห่งแรงบันดาลใจ แต่คือ พลังเปลี่ยนเกมที่จุดประกายให้ทุกไอเดียกลายเป็นการลงมือทำ ขับเคลื่อนสังคมไทยให้ก้าวทันโลก แข็งแรง และยั่งยืนอย่างแท้จริง

กานติมา เลอเลิศยุติธรรม

นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า “งาน AIS ACADEMY for THAIs | LIFE FEST 40+ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ภารกิจคิดเผื่อ”  มุ่งส่งต่อทั้งแรงบันดาลใจและทักษะดิจิทัลสำคัญ เพื่อให้คนไทยทุกเพศทุกวัย  ที่ใฝ่เรียนรู้ รับมือกับความเปลี่ยนแปลง ต่อยอดไปสู่โอกาสใหม่ในชีวิต ปัจจุบันมีสมาชิกแล้วกว่า 100,000 คน

นอกจากนี้ได้เปิดเวทีด้วย JUMP THAILAND Hackathon 2025 การแข่งขันประชันไอเดียนวัตกรรม เพื่อผู้สูงอายุและคนพิการ ภายใต้โจทย์ “นวัตกรรมเทคโนโลยียุคปัญญาประดิษฐ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ผู้สูงอายุและคนพิการสามารถมีงานทำและมีรายได้อย่างยั่งยืน” ซึ่งจัดขึ้นร่วมกับกระทรวง พม. ปีนี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม มีผู้สมัครจากทั่วประเทศกว่า 295 ทีม 1,100  คน จาก 55 สถาบันชั้นนำจากทั่วประเทศ และพนักงานอุ่นใจของ AIS ร่วมเติมเต็ม ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและแพลตฟอร์มสมัยใหม่  ต่อยอดและพัฒนาออกมาเป็น 10 ไอเดียต้นแบบที่โดดเด่น  นำไปใช้จริง ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและคนพิการ ให้สามารถยืนหยัด มีงานทำ และสร้างรายได้อย่างมั่นคง ตอบโจทย์สังคมไทยอย่างแท้จริง

“JUMP THAILAND”  ไม่ใช่แค่โครงการ แต่เป็นเวทีที่พิสูจน์ว่า เมื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพ ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ก็เกิดขึ้นได้จริง ในปีนี้เราได้เห็นพลังของนิสิต นักศึกษา ที่จับมือกับพนักงานอุ่นใจอาสาสร้างสรรค์นวัตกรรม ที่ไม่ได้หยุดแค่ไอเดีย แต่ตั้งใจจะเปลี่ยนคุณภาพชีวิตของผู้คน ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ และรับมือกับโจทย์ท้าทายระดับประเทศ นวัตกรรมจากเวทีนี้เปรียบเสมือนแสงไฟเล็กๆ ที่พร้อมส่องประกาย และเมื่อแสงไฟเหล่านี้ถูกรวมกัน จะกลายเป็นพลังที่ส่องสว่างให้สังคมไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแรงและยั่งยืน เพราะเรามั่นใจว่าทุกความคิด ทุกโอกาส และทุกการลงมือทำ จะกลายเป็นก้าวสำคัญที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศได้จริง”

สำหรับทีมที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ประกอบด้วย

รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม Teletubbies จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กับผลงานนวัตกรรมที่ประยุกต์การใช้ระบบ IoT ในการช่วยให้ผู้สูงอายุทำงานด้านประมงได้สะดวกมากยิ่งขึ้น จะได้รับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท และยังได้รับรางวัล Popular vote พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ ทีมตัวจี๊ดพร้อมจั๊มพ์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กับผลงานเครื่องมือช่วยให้คนพิการทางการได้ยินสามารถไลฟ์ขายของได้ พร้อมเงินรางวัล 60,000 บาท

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ทีม Eye Touch จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย & มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กับผลงานเทคโนโลยีที่ช่วยในการฝึกอบรมและพัฒนาการนวดแผนไทยให้กับคนพิการทางการมองเห็น พร้อมเงินรางวัล 40,000 บาท
ทั้งนี้สำหรับผู้สนใจสามารถชมผลงานนวัตกรรมกรรมของน้อง ๆ นิสิต นักศึกษา ทั้ง 10 ทีม ของโครงการ JUMP THAILAND Hackathon 2025 ได้ที่ www.jumpthailand.com และ Facebook: Jump Thailand


ช่วงบ่ายกับเวทีสัมมนา “ภารกิจคิดเผื่อ “Life Hack 40+ …รู้ก่อน ยังทัน” ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมอย่างคับคั่ง เพราะเป็นพื้นที่ที่บูรณาการองค์ความรู้ครบทั้ง 5 มิติสำคัญต่อการใช้ชีวิต ได้แก่ การวางแผนการเงินให้มั่นคงท่ามกลางเศรษฐกิจที่ผันผวน การดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรคและยืดอายุความแข็งแรง การเติมพลังใจและทัศนคติใหม่เพื่อก้าวข้ามความท้าทาย การออกแบบวิถีชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้สมดุล และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อทำให้ชีวิตสะดวก ปลอดภัย และก้าวทันโลก

ปิดท้ายด้วย เวทีสัมมนา “ภารกิจคิดเผื่อ “Real Case มือถือเปลี่ยนชีวิต” ที่รวมเหล่าอินฟลูเอนเซอร์แถวหน้าของไทยมาถ่ายทอดประสบการณ์จริง สะท้อนให้เห็นว่า “ดิจิทัลไม่ใช่เพียงเทรนด์ แต่คือพลังที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง” เพราะสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องไม่ใช่แค่เครื่องมือสื่อสาร หากแต่คือโรงงานสร้างโอกาสในมือทุกคน ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้จากเรื่องจริงว่า ดิจิทัลสามารถต่อยอดเป็นรายได้ใหม่ สร้างคอนเทนต์ที่เข้าถึงผู้คนนับล้าน ขยายธุรกิจให้เติบโตบนโลกออนไลน์ หรือแม้กระทั่งพลิกเกษตรท้องถิ่นให้ก้าวสู่ตลาดยุคใหม่ที่แข่งขันได้ทั้งระดับประเทศและสากล

กิจกรรมนี้จึงไม่เพียงเป็นเวทีแห่งแรงบันดาลใจ แต่คือไอเดียในการปรับเปลี่ยนชีวิตให้ทันเทคโนโลยี ซึ่งสอดรับกับพันธกิจของ AIS Academy ในการนำความรู้และเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนสังคมไทยให้ก้าวทันโลก ลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้แข็งแรง มั่นคง และยั่งยืนอย่างแท้จริง