“หุ้นโตเกียว-เอเชีย”เช้านี้บวก คาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยเดือนต.ค.นี้

HoonSmart.com>>”ตลาดหุ้นโตเกียว” เช้านี้ปรับตัวขึ้น แรงซื้อเก็งกำไรจากการร่วงลงในสองวันทำการก่อนหน้า ด้าน “ตลาดหุ้นเอเชีย” บวกทั้งภูมิภาค ฟื้นตัวหลังจากร่วงลงสามวัน คาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย หลังประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์และผลประกอบการธนาคารที่สดใสบนวอลล์สตรีท ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงคุกรุ่น นักลงทุนไม่เสี่ยงมากนัก

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับขึ้นด้วยแรงซื้อเก็งกำไรจากการร่วงลงในสองวันทำการก่อนหน้า โดยมีการปรับตัวขึ้นในเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม นำโดยหุ้นกลุ่มดัชนีขนาดใหญ่และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ในตลาด Prime Market หุ้นที่ปรับตัวขึ้นหลัก ๆ ได้แก่ กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ กลุ่มเครื่องจักร และกลุ่มประกันภัย

ณ เวลา 9.43 น. ตามเวลาประเทศไทย

ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 47,468.84 จุด เพิ่มขึ้น 621.52 จุด, +1.33%

ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกปรับขึ้นทั้งภูมิภาค ฟื้นตัวหลังจากร่วงลงสามวัน จากความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ และผลประกอบการธนาคารที่สดใสบนวอลล์สตรีท แม้ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงคุกรุ่นทำให้นักลงทุนไม่เสี่ยงมากนัก

พาวเวลล์ กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติสหรัฐ หรือ NABE แสดงความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง และเฟดกำลังใกล้ถึงจุดที่จะยุติการลดขนาดการถือครองพันธบัตร

ความคิดเห็นของพาวเวลล์ ซึ่งบางคนมองว่าเป็นไปในเชิงผ่อนคลาย ซึ่งยิ่งตอกย้ำความคาดหวังว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นในปีนี้ และคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยราว 0.48% ภายในเดือนธันวาคม

ทอม เคนนี นักเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศอาวุโสจาก ANZ กล่าวว่า “เฟดอาจกำลังพิจารณาที่จะยุติมาตรการ QE ในเร็วๆ นี้ โดยอาจมีการประกาศในการประชุม FOMC ในเดือนตุลาคมนี้ และคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุม FOMC ทั้งในเดือนตุลาคมและธันวาคม

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นยังคงเปราะบางเนื่องจากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนกลับมาอีกครั้ง โดยทั้งสองฝ่ายต่างยกระดับการใช้ถ้อยคำและส่งสัญญาณข้อจำกัดใหม่ๆ

ในวันอังคารประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์บน Truth Social กล่าวหาว่าจีนจงใจไม่ซื้อถั่วเหลืองในช่วงท้ายของวัน และกำลังพิจารณาที่จะยุติความสัมพันธ์ทางการค้าบางส่วนกับจีน รวมถึงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันปรุงอาหาร

สหรัฐอเมริกาและจีนยังเริ่มเรียกเก็บค่าธรรมเนียมท่าเรือระหว่างกันเพิ่มเติมจากบริษัทขนส่งทางทะเลที่ขนส่งทุกอย่างตั้งแต่ของเล่นวันหยุดไปจนถึงน้ำมันดิบ

ในประเทศจีน เงินหยวนแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ธนาคารประชาชนจีนกำหนดระดับเงินหยวนไว้ที่ 7.0995 หยวนต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับ 7.1 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด

ฟิโอนา ลิม นักวิเคราะห์อาวุโสด้านอัตราแลกเปลี่ยนจาก Malayan Banking Bhd. ในสิงคโปร์ กล่าวว่า ค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าจีนมีความแข็งแกร่งในการเจรจาต่อรองหรือการตอบโต้กันอย่างรุนแรง

สำนักงานสถิติจีนรายงานเช้าวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)ของจีนในเดือนกันยายนลดลง 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี มากกว่าการลดลง 0.2% ที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ทำการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี CPIเพิ่มขึ้น 0.1% ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%

ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 1.0% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ตามข้อมูลจาก Wind Information

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,881.15 จุด เพิ่มขึ้น 15.92 จุด, +0.41%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 25,824.53 จุด เพิ่มขึ้น 383.18 จุด, +1.51%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 3,627.22 จุด เพิ่มขึ้น 65.41 จุด, +1.84%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 27,072.75 จุด เพิ่มขึ้น 279.6 จุด, +1.04%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 0.11 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ซื้อขายที่ 62.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 0.09 ดอลลาร์หรือ 0.15% ซื้อขายที่ 58.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–