HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี 1,270 – 1,280 จุด แนวต้าน 1,290 – 1,300 จุด คาดดัชนี SET ชะลอตัวรอประเมินปัจจัยเสี่ยงข้อพิพาทสหรัฐ – จีน และรายงานกำไร Q3/69 กลุ่มธนาคาร TISCO แจ้งวันนี้กำไรคาด 1.66 พันล้านบาท ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดพุ่ง หลัง ปธน.ทรัมป์ เริ่มมีท่าทีอ่อนลงต่อมาตรการเก็บภาษีสินค้าจีนอัตรา 100% แนะทยอยซื้อกลุ่มโรงไฟฟ้า , กลุ่มไอซีที, กลุ่มท่องเที่ยว พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่น MAGURO, ITC
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,270 – 1,280 จุด แนวต้าน 1,290 – 1,300 จุด คาดดัชนีชะลอตัวรอประเมินปัจจัยเสี่ยงข้อพิพาทสหรัฐ – จีน และรอรายงานกำไร Q3/69 ของกลุ่มธนาคาร แนะนำทยอยซื้อกลุ่มโรงไฟฟ้า GULF,BGRIM,GUNKUL ได้ประโยชน์จากโครงการโซลาร์ชุมชุนและ Direct PPA และ EGCO,BCGP มีพอร์ตโรงไฟฟ้าในสหรัฐ , กลุ่มไอซีที ADVANC,TRUE คาดกำไร Q3/68 เติบโตดี กอปรได้แรงหนุนจากเทรนด์การใช้ AI ,กลุ่มท่องเที่ยว ERW,CENTEL คาดได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว
ประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ ครม.จะพิจารณา มาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวเมืองรอง และการเริ่มรายงานกำไร Q3/68 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดย BB.Consensus คาด -4.0% QoQ และทรงตัว YoY โดยวันนี้ TISCO จะรายงานกำไร Q3/68 คาดที่ 1.66 พันล้านบาท -3% YoY, +1% QoQ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดวานนี้ DJIA +1.29%, S&P500 +1.56%, Nasdaq +2.21% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโน ฯ +2.47%, สินค้าฟุ่มเฟือย +2.29% ขณะที่กลุ่มสินค้าอุปโภค -0.36%, บริการสุขภาพ -0.1% โดยดัชนีหุ้นสหรัฐเริ่มฟื้นตัว หลัง ปธน.ทรัมป์ เริ่มมีท่าทีอ่อนลงต่อ มาตรการเก็บภาษีสินค้าจีนในอัตรา 100% เพื่อตอบโต้มาตรการจำกัดการส่งออกแร่หายากของจีน ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.44% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนฯ +1.8% หลังเริ่มคลายกังวลต่อข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน และกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน +3% ปรับขึ้นตามราคาทองแดง
ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้เริ่มฟื้นตัว หลัง รม.คลังสหรัฐเผย ปธน.ทรัมป์กับ ปธน.จีนมีนัดหารือข้อตกลงการค้าในการประชุม Apec ที่เกาหลีใต้วันที่ 30 ต.ค. – 1 พ.ย. หลัง ปธน.ทรัมป์ขู่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนในอัตรา 100% และคุมการส่งออกซอฟแวร์สำคัญ เพื่อตอบโต้จีนที่ประกาศคุมการส่งออกแร่หายาก 17 ชนิด ที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรมผลิต EV, เครื่องยนต์ของเครื่องบิน, เรดาห์ทางการทหาร และเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งจีนมีสัดส่วนการผลิตแร่หายากเหล่านี้จำนวน 70% ของโลก
สัปดาห์นี้ติดตามการรายงานงบของกลุ่มธนาคาร เช่น JP.Morgan Chase, Goldman Sachs, Citi Group และ Wells Fargo และการแก้ไขปัญหาชัตดาวน์ ซึ่งจะถึงกำหนดจ่ายเงินเดือนเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐในวันที่ 15 ต.ค.
หุ้นเด่นแนะน MAGURO (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 30.75 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 3Q68 ปรับตัวขึ้นได้ต่อ +QoQ, +YoY หนุนจากการเติบโต SSSG ของสาขาเดิมที่เริ่มฟื้นตัว แต่ key driver หลักยังมาจากการเปิดสาขาใหม่เป็น 49 สาขา (จาก 2Q68 ที่ 45 สาขา) แนวโน้ม 4Q68 คาดกำไรเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องจากเป็น high season และมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 3 สาขา ทั้งนี้ในปี 68 ผู้บริหารคาดรายได้โต +30%YoY และตั้งเป้ายอดขาย 5 พันล้านบาท ภายในปี 2572 ด้วยอัตรากำไรขั้นต้น 50-55% เบื้องต้น Consensus ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 142 ล้านบาท +46%YoY และ 185 ล้านบาท +30%YoY
หุ้น ITC (ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 17.60 บาท) ตลาดคาดกำไรสุทธิ 3Q68 อยู่ที่ 753 ลบ.(-23%YoY, +8%QoQ) มีแรงหนุนในเชิง Volume ตามฤดูกาล ขณะที่สัดส่วนอาหาร Premium เริ่มกลับมา อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยกดดันมาจากเงินบาทที่แข็งค่า และการให้ส่วนลดลูกค้าในสหรัฐฯเพื่อรองรับภาษีทรัมป์(10%) ส่วนการดำเนินงานช่วงถัดไป 4Q68 แม้จะยังกดดันต่อจากภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ(เพิ่มมาที่ 19%) แต่ภาษีอยู่ในระดับที่แข่งขันได้เมื่อเทียบประเทศคู่แข่ง และคาดว่า Volume ขายจะยังอยู่ในเกณฑ์ดี ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี 68 และ69 กำไรสุทธิของ ITC* จะอยู่ที่ 3,006 ล้านบาท (-16%YoY) และ 3,333 ล้านบาท (+11%YoY) ตามลำดับ
———————————————————————————————————————————————————–

