ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 2.6% กังวลอุปทานล้น-ศก.ชะลอ

ราคาน้ำมันดิบลงต่อ WTI ปิดต่ำกว่า 50 เหรียญสหรัฐฯ กังวลปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาด เศรษฐกิจโลกแนวโน้มชะลอตัวลง

บริษัท ไทยออยล์ เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบปรับลงต่อจากความกังวลปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาดและเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของผู้เล่นรายใหญ่อย่างจีนและยุโรปที่ค่อนข้างซบเซาจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดตลาดวันที่ 17 ธ.ค. 61 อยู่ที่ 49.88 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล -1.32 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หรือ -2.6% น้ำมันดิบเบรนท์ ปิด 59.61 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล -0.67 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หรือ -1.1%

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (shale oil) จะปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 8 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปีนี้ และอาจพุ่งไปถึง 8.73 ล้านบาร์เรลในเดือน ม.ค 62. นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบจากรัสเซียปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในเดือน ธ.ค. ที่ 11.42 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ปริมาณสำรองน้ำมันดิบ ณ จุดส่งมอบ Cushing, Oklahoma แตะระดับ 38.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบปีนับตั้งแต่ ม.ค. 61 และเป็นการปรับเพิ่มต่อเนื่องถึง 10 สัปดาห์จากการขยายท่อขนส่ง Sunrise ใน West Taxas ตั้งแต่เดือน พ.ย.61

ปัจจัยที่น่าจับตามอง ริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลง หลังโรงกลั่นในสหรัฐฯ ยังคงอัตราการกลั่นในระดับสูงเพื่อรองรับความต้องการใช้ในช่วงฤดูหนาว ประกอบกับ ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง, ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังตกลงที่จะปรับลดลงกำลังการผลิตลงราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน ม.ค. 62 เป็นเวลา 6 เดือน รวมทั้งต้องติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในลิเบียที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หลังกองกำลังติดอาวุธบุกยึดแหล่งผลิตน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อย่างแหล่ง El Sharara กำลังการผลิตกว่า 315,000บาร์เรลต่อวัน