ดาวโจนส์ปิดร่วงแรง 507 จุด วิตกเศรษฐกิจ เฟดขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีดาวโจนส์ลบกว่า 2.11% นักลงทุนวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว ฉุดตลาดหุ้นยุโรปร่วงยกแผง ด้านราคาน้ำมัน WTI ปิดต่ำสุดรอบ 1 เดือน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 17 ธันวาคม 2561 ที่ 23,592.98 จุด ลดลง 507.53 จุด หรือ 2.11% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา และเป็นการเริ่มต้นซื้อขายเดือนธันวาคมที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1931 ทั้งๆที่ปกติแล้วตลาดจะปรับขึ้นในเดือนธันวาคม โดยเดือนนี้ดัชนี DJIA ลดลงแล้วมากกว่า 7% การลดลงของตลาดนำโดยการเทขายในหุ้นอเมซอนและโกลด์แมนแซคส์

นักลงทุนวิตกต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง (เฟด) ที่จะประชุมในวันที่ 18-19 ธันวาคมนี้ แม้จะคาดไว้อยู่แล้วว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 4 และครั้งสุดท้ายของปี ท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวและเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2019 และยังหวั่นวิตกว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในปี 2019

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,545.94 จุด ลดลง 54.01 จุด,-2.08,% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2017 และลดลงแล้ว 4% ในเดือนนี้

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,753.73 จุด ลดลง 156.93 จุด,-2.27% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2017

สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ(NAHB) เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือนธันวาคมลดลง 4 จุดจากเดือนก่อนมาที่ระดับ 56 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015

ความกังวลต่อการอ่อนตัวลงของการใช้จ่ายของผู้บริโภคส่งผลให้หุ้นกลุ่มค้าปลีกลดลง โดยหุ้นอเมซอนลดลง 2.1% หุ้นมาร์เก็ตลดลง 4.5% หุ้นเบสท์บายลดลง 5.7%

หุ้นโกลด์แมนแซคส์ลดลง 2.7% ต่ำสุดในรอบ 2 ปีหลังจากอัยการมาเลเซียยื่นฟ้องคดีอาญากับธนาคารและอดีตพนักงาน 2 คนตามกฎหมายหลักทรัพย์ ในข้อหาคอร์รัปชั่นทุจริตและฟอกเงินในกองทุน 1MDB โดยโกลด์แมนแซคส์ กำลังถูกตรวจสอบกรณีช่วยระดมทุน 6.5 พันล้านดอลลาร์ด้วยการออกพันธบัตรให้กองทุน 1MDB ที่กำลังถูกสอบสวนใน 6 ประเทศ

หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ลดลงหลังจากศาลระบุว่า กฎหมายประกันสุขภาพ Affordable Care หรือที่รู้จักกันในชื่อ โอบามาแคร์ ขัดต่อรัฐธรรมนูญในการบังคับให้ประชาชนซื้อประกันสุขภาพ โดยหุ้นยูไนเต็ดเฮลท์ลดลง 2.6% หุ้นเอชซีเอแคร์ ผู้ประกอบการโรงพยาบาลรายใหญ่ลดลง 2.8%

หุ้นจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ยังคงลดลง 2.75% หลังจากรายงานข่าวระบุว่า บริษัทรับรู้มาตลอด 10 ปีว่าแป้งเด็กที่บริษัทผลิตมีแร่ใยหินปนเปื้อน แต่ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่และสาธารณชน

หุ้นพลังงานลดลงตามราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นเชฟรอนลดลง 1.2% หุ้นเอ็กซอนโมบิลดลง 2.04%

ตลาดยุโรปปิดลบจากความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังธุรกิจค้าปลีก Asos ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการทั้งรายได้และกำไรอย่างมาก ซึ่งเป็นสัญญานเตือน ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศหลักๆที่ต่ำกว่าคาดยังครอบงำตลาด รวมทั้งความไม่แน่นอนของการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ โดยนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษประกาศว่า จะมีการลงมติเงื่อนไขการถอนตัวในวันที่ 14 มกราคม 2019

หุ้นกลุ่มค้าปลีกในอังกฤษลดลง โดยหุ้น Asos ลดลงแรง 37.55% หุ้นมาร์แอนด์สเปนเซอร์ลดลง 4.94% หุ้นเน็กซ์ลดลง 4.63%

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,773.24 จุด ลดลง 71.93 จุด,-1.05%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 343.26 จุด ลดลง 3.95 จุด,-1.14%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,799.87 จุด ลดลง 53.82 จุด,-1.11%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,772.20 จุด ลดลง 93.57 จุด,-0.86 %

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมลดลง 1.32 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 49.88 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี หลังรายงานว่าปริมาณน้ำมันสำรองในสหรัฐเพิ่มขึ้น ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 67 เซนต์ปิดที่ 59.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล