“คิงส์ฟอร์ด” คาดดัชนีไซด์เวย์ ชัตดาวน์สหรัฐกระทบไม่มาก แนะ KTC-TNP

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีหุ้นวันนี้ Sideway หลังผลกระทบจากภาวะชัตดาวน์สหรัฐไม่มาก ด้านมาตรการคนละครึ่งพลัสเริ่มเบิกจ่ายได้ช่วง พ.ย.–ธ.ค.นี้ แนวรับดัชนี 1,260 – 1,270 จุด แนวต้าน 1,280 – 1,290 จุด แนะเก็งกำไร KTC ซื้อ TNP

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,260 – 1,270 จุด แนวต้าน 1,280 – 1,290 จุด คาดดัขนีมีโอกาส Sideway หลังผลกระทบจากภาวะชัตดาวน์สหรัฐไม่มาก กอปรกับ มาตรการคนละครึ่งพลัส ที่จะเริ่มเบิกจ่ายได้ในช่วง พ.ย. – ธ.ค. แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว เช่น กลุ่มค้าปลีกและอุปโภค CPALL,CPAXT,BJC,TNP,ICHI คาดได้ประโยชน์จากมาตรการคนละครึ่ง กลุ่มไฟแนนท์และอสังหา SAWAD,MTC,TIDLOR,KTC,SPALI,DIF,3BBIF คาดได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง

ภาพรวมนักลงทุน Wait & See รอประเมินผลกระทบจากภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐ และรอมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อผ่านโครงการคนละครึ่งพลัสวงเงิน 6.6 หมื่นล้านบาท ที่จะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่ 29 ต.ค. – สิ้น ธ.ค. 68 รวมถึงมาตรการกระตุ้นกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง, การเร่งเบิกจ่ายของภาครัฐ ซึ่งทาง รมว.คลังคาดจะช่วยหนุน GDP ไทย Q4/68 ขยายตัวสูงกว่า 1%

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดวานี้ DJIA +0.09%, S&P500 +0.34%, Nasdaq +0.42% นำโดยกลุ่มบริการสุขภาพ +3.0% หลัง Pfizer บรรลุข้อตกลงกับ ปธน.ทรัมป์ในการปรับลดราคายา ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีได้แรงหนุนจาก Micron Technology +8.9%

ขณะที่ช่วงคืนที่ผ่านมาวุฒิสภาสหรัฐยังไม่สามารถผ่าน กม.งบประมาณชั่วคราวที่จะใช้งบจนถึงวันที่ 21 พ.ย. ส่งผลให้หน่วยงานราชการบางส่วนต้องปิดทำการ ซึ่งก่อนหน้าเคยเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2018 เป็นเวลา 35 วัน ส่งผลกระทบต่อ US GDP มูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยวันนี้หน่วยงานราชการจะไม่สามารถรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ย. ในวันศุกร์นี้ ขณะที่ ADP รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ก.ย. ลดลง 32,000 ราย สวนทางคาดจะเพิ่มขึ้น 52,000 ราย ส่งผลให้ CME FedWatch ชี้มีโอกาส 99% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 28 – 29 ต.ค.

หุ้นเด่นแนะนำ KTC (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 32.25 บาท) แนวโน้ม 2H68 ผลการดำเนินงานยังเติบโต YoY หนุนจากความต้องการใช้สินเชื่อที่สูงขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่สินเชื่อจำนำทะเบียนรถจะขยายตัวได้ตามแผน นอกจากนี้ยังคาดว่า NIM จะปรับเพิ่มขึ้นจากต้นทุนทางเงินที่ต่ำลงตามทิศทางดอกเบี้ย และการตั้งสำรองที่ลดลง

ในปี 68 ผู้บริหารคาดปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต +10% พอร์ตสินเชื่อรวมโต 4-5% สินเชื่อรถยนต์พี่เบ้มตั้งเป้าไว้ที่ 3 พันล้านบาท คุม NPL ไม่เกิน 2% และจะเริ่มเห็นการดำเนินงานของธุรกิจนายหน้าขายประกันในปีหน้า ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 7.6 พันล้านบาท +2%YoY และ 7.89 พันล้านบาท +4%YoY

หุ้น TNP (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 4.03 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 50 ลบ.(+19%YoY, -0.1%QoQ) แม้ SSSG -2.0%YoY แต่มีแรงหนุนยอดขายจากการขยายสาขา ขณะที่ SSSG ติดลบน้อยลงจาก 1Q68 ที่ -3.1%YoY

ส่วนการดำเนินงานครึ่งปีหลังนี้ แม้ 3Q68 คาดว่ายังกดดันตามฤดูกาล แต่จะกลับมาดีใน 4Q68 เป็น High Season และมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากมาตรการของภาครัฐฯ โดยเฉพาะม.ช่วยเหลือค่าครองชีพผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึง มาตรการคนละครึ่ง ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของ TNP* จะอยู่ที่ 202 ลบ.(+9%YoY) และ 220 ล้านบาท (+9%YoY)

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–