ส่องหุ้น ต.ค.แกว่งไซด์เวย์ขึ้น เพิ่มเป้า SET ปัจจัยในปท.หนุน ชู 16 หุ้นเด่น

HoonSmart.com>>3 โบรกเกอร์ส่องหุ้นไทยเดือนต.ค.แกว่งไซด์เวย์ อิงขึ้น ปัจจัยในประเทศหนุน จากการเมืองมีเสถียรภาพ-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่ง”ฟินันเซีย”เพิ่มเป้า SET ปี 68 เป็น 1,330 “ทิสโก้”เพิ่มเป้าเป็น 1,334 จุด อีกทั้งทิศทางดอกเบี้ยขาลงในไตรมาส 4/68 พร้อมมองกรอบ SET ต.ค. 1,220-1,360 จุด เชียร์กลุ่ม Domestic Play หุ้นเด่น CPALL, ICHI, KTB, MTC, SYNEX, CPAXT, SCB, COM7, PRM, WHA, DIF, FTREIT, BDMS, BGRIM, KTC, CPN

ดัชนี SET ปิด 30 ก.ย.68 ที่ 1,274.17 จุด เพิ่มขึ้น 37.56 จุด หรือ +3.04% จาก 29 ส.ค.2568 ปิดที่ 1,236.61 จุด มูลค่าการซื้อขายหมุนเวียนเฉลี่ยต่อวันในเดือนก.ย.อยู่ที่ 42,462.22 ล้านบาท ลดลงจากเดือนส.ค.ที่อยู่ 49,876.83 ล้านบาท

มูลค่าการซื้อขายตามกลุ่มนักลงทุน เมื่อวันที่ 1-30 ก.ย.2568 สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 2,683.73 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 3,546.91 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 11,949.46 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 12,812.64 ล้านบาท

ส่วนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 ก.ย. 2568 สถาบันในประเทศขายสุทธิ 5,829.92 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 17,680.81 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 96,236.78 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 119,747.52 ล้านบาท

FSS เพิ่มเป้า SET ปี 68 เป็น 1,330 สอดรับปัจจัยในปท.หนุน

บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) แนะกลยุทธ์การลงทุนเดือน ต.ค. 2568 ปัจจัยในประเทศมีโอกาสหนุน SET ฟื้นต่อ และโฟกัสเศรษฐกิจอยู่ที่ผลกระทบจริงจากภาษี ซึ่งอาจไม่รุนแรงมากอย่างที่เคยกังวล ขณะที่นโยบายการเงินยังอยู่ในทิศทางผ่อนคลาย เศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 2568 จะโตชะลออย่างมีนัยยะถ่วงจากส่งออก แต่ในประเทศมีแรงหนุนจากการเมืองที่มีเสถียรภาพและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเรือธงคือ โครงการคนละครึ่ง ปรับเพิ่ม SET Target ปี 2568 เป็น 1,330 จุด (อิง EPS ที่สูงขึ้นเป็น 89 บาท และ Target PER เท่าเดิมที่ 15 เท่า)

ทั้งนี้ ยังคงชอบ Domestic และ Consumption Play เช่น ค้าปลีก อาหาร ไฟแนนซ์ การแพทย์ เป็นต้น จากความคาดหวังนโยบายเชิงบวกจากครม.ใหม่ รวมถึงข้อเสนอ“Quick-Big Win” ของ FETCO โดยเฉพาะการเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด หุ้นเด่นเดือน ต.ค. ได้แก่ CPALL ICHI KTB MTC SYNEX

“ทิสโก้”ส่องหุ้น Q4/68 ขึ้น พร้อมเพิ่มเป้า SET ปีนี้เป็น 1,334 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ภาพตลาดไตรมาส 4/2568 ดัชนีฯคงจะเคลื่อนไหว Sideway ถึง Sideway up แรงหนุนจากปัจจัยในประเทศที่ดีอยู่ ทั้งมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ, แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเป็นขาลงในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นบวกต่อตลาดหุ้น โดยคาดว่ากนง.คงจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนธ.ค. ส่วนธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมปลายเดือนต.ค.นี้ แต่ก็ยังมีความเป็นห่วงตลาดสหรัฐฯจะปรับฐานหลังจากที่ขึ้นไปมาก

“ฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มเป้าดัชนี SET ปี 2568 เป็น 1,334 จุด จากเป้าเดิม 1,208 จุด คิด EPS ปี 68 ที่ 84.4 บาท ส่วนกรอบดัชนี SET เดือนต.ค.มองแนวรับ 1,260-1,270 ถัดไป 1,220 จุด แนวต้านหลัก 1,315 ถัดไป 1,360 จุด”

ทั้งนี้ นักลงทุนควรเลือกลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐฯ และปันผลสูง รวมถึงคาดหวังงบฯไตรมาส 3/2568 จะออกมาดี แนะนำหุ้น CPAXT, KTB, SCB, COM7, PRM, WHA

“ทรีนีตี้” คาดหุ้นต.ค.แกว่งไซด์เวย์ ลุ้นมาตรการกระตุ้นศก.-กนง.ลดดอกเบี้ย

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ เปิดเผยถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยเดือนตุลาคม คาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways โดยมีตัวกระตุ้นจาก Sentiment ในประเทศ ได้แก่ ความคาดหวังในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ เช่นนโยบายคนละครึ่ง ซึ่งหากเกิดขึ้นได้เร็ว คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและการหมุนเวียนของเงินในประเทศได้บ้าง

ส่วนปัจจัยกระตุ้นอื่นที่อาจเกิดขึ้นในเดือนนี้ ได้แก่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย ซึ่งถ้าหากมีการลดดอกเบี้ยได้ 0.25%จะถือเป็นตัวแปรสนับสนุน Multiple ของดัชนีให้มีการขยับขยายขึ้นได้อีกเล็กน้อย ในทางกลับกัน ความเสี่ยงในเดือนนี้ ในฝั่งของปัจจัยต่างประเทศได้แก่ภาวะเศรษฐกิจโลก ที่เริ่มเห็นเครื่องชี้ต่างๆออกมาในทิศทางแย่กว่าคาดมากขึ้น ส่วนปัจจัยในประเทศมองไปยังผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ที่จะทยอยประกาศออกมา ซึ่งอาจยังไม่มีทิศทางที่ดีขึ้นเท่าใดนัก โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic play เนื่องจากเป็นช่วงสุญญากาศทางการเมือง และเป็นช่วง Low season ของการบริโภค

โดยประเมินกรอบแนวต้านของ SET Index ประจำเดือนตุลาคมที่ระดับ 1,300-1,320 จุด ซึ่งอิงสมมติฐานการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของกนง.สู่ระดับ 1.25% เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ตัวคูณ PE มีการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 14.4x คูณกับประมาณการ EPS ปี 2568 ล่าสุดที่ 91 บาท ในทางกลับกัน ประเมินกรอบแนวรับดัชนี SET เดือนนี้จะอยู่ที่บริเวณ 1,240-1,250 จุด ซึ่งเป็นระดับเทียบเท่าเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันและ 200 วันล่าสุด

กลุ่มหุ้นที่น่าสนใจในช่วงนี้ยังคงได้แก่ กลุ่มหุ้น Bond-like อาทิ กอง IFF และกอง REIT กลุ่ม Defensive play เช่นโรงพยาบาลและสาธารณูปโภค รวมไปถึงกลุ่ม Domestic cyclicals เช่น ค้าปลีก ไฟแนนซ์ และอสังหาฯ ที่แนะใช้จังหวะที่ราคาอาจย่อตัวลงมาในช่วงของการประกาศงบไตรมาส 3/2568 ในการเข้าซื้อ มองหุ้นที่น่าสนใจประจำเดือนนี้ ได้แก่ DIF, FTREIT, BDMS, BGRIM, CPAXT, KTC และ CPN