HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นโตเกียว” เช้านี้ลบเล็กน้อย นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญของสหรัฐฯ “ตลาดหุ้นเอเชีย” ปรับตัวลงแทบทั้งภูมิภาค หลังประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดเผยมาตรการภาษีรอบใหม่ที่รุนแรง
ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับลงเล็กน้อย ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดลบเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญจากสหรัฐอเมริกา
ในตลาด Prime Market หุ้นที่ปรับลง ได้แก่ กลุ่มเภสัชกรรม กลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด และกลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในโตเกียวอยู่ที่ 2.5% ซึ่งต่ำกว่า 2.8% ที่นักวิเคราะห์ของรอยเตอร์สคาดการณ์ไว้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทรงตัวที่ 2.5% ตัวเลขเงินเฟ้อของโตเกียวถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บ่งชี้แนวโน้มทั่วประเทศ
ความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับ 150 เยนในวันนี้
ณ เวลา 8.56 น. ตามเวลาประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 45,701.79 จุด ลดลง 53.14 จุด, -0.12%
ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกปรับตัวลงแทบทั้งภูมิภาคหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยมาตรการภาษีรอบใหม่ที่รุนแรง และนักลงทุนลดความเป็นไปได้ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อย่างมาก หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด
เมื่อวันพฤหัสบดี ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐฯ จะจัดเก็บภาษีนำเข้ายาที่มีตราสินค้า 100% ภาษีรถบรรทุกขนาดหนัก 25% และภาษีตู้ครัว 50% และจะเริ่มเรียกเก็บภาษีนำเข้า 50% สำหรับตู้เครื่องแป้งในห้องน้ำและ 30% สำหรับเฟอร์นิเจอร์หุ้มเบาะในสัปดาห์หน้า โดยภาษีใหม่ทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม
ในตลาดหุ้นญี่ปุ่น ดัชนี Topix Pharma ลดลง 1.39% หลังจากการประกาศดังกล่าว Daiichi Sankyo และ Chugai Pharmaceutical อยู่ในกลุ่มบริษัทที่ปรับตัวลง โดยลดลง 3.34% และ 2.18% ตามลำดับ Sumitomo Pharma ร่วงลง 3.03%
CSL บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของออสเตรเลีย ร่วงลงมากกว่า 3%
เมื่อคืนที่ผ่านมา ทรัมป์ยังได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่ออนุมัติข้อเสนอที่จะทำให้ TikTok ยังคงดำเนินกิจการอยู่ในสหรัฐฯ ต่อไป โดยธุรกรรมดังกล่าวมีมูลค่าธุรกิจอยู่ที่ 14,000 ล้านดอลลาร์ ภายใต้เงื่อนไขที่จีนต้องอนุมัติ บริษัทร่วมทุนแห่งใหม่จะเข้ามาดูแลธุรกิจของ TikTok ในสหรัฐฯ โดยที่ ByteDance จะถือหุ้นไม่ถึง 20%
นอกจากนี้ ความคาดหวังที่จะเห็นธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดดอกเบี้ยลงอย่างมากยังลดลงด้วย หลังจากข้อมูลเมื่อวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะที่ดี
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่สิ้นสุด
วันที่ 20 กันยายน ลดลง 14,000 ราย มาที่ 218,000 ราย และต่ำกว่า 235,000 ราย ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ส่วนการยื่นขอรับสวัสดิการต่อเนื่องลดลงเล็กน้อยเหลือ 1.92 ล้านราย ขณะเดียวกัน GDP ไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 3.8% ต่อปี ฟื้นตัวจากการลดลง 0.6% ในไตรมาสที่ 1 และสูงกว่าประมาณการ 3.3% อย่างมาก
ความสนใจของนักลงทุนอยู่ที่ข้อมูลเงินเฟ้อในวันศุกร์ มาตรวัดเงินเฟ้อพื้นฐานที่เฟดนิยมใช้น่าจะขยายตัวในอัตราที่ช้าลงในเดือนที่แล้ว ซึ่งทำให้ผู้กำหนดนโยบายมีเวลาหายใจหายคอเพื่อรับมือกับปัญหาการจ้างงานที่ซบเซาลง
ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,848.81 จุด ลดลง 4.48 จุด, -0.12%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 26,338.21 จุด ลดลง 146.47 จุด, -0.55%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 3,407.32 จุด ลดลง 63.79 จุด, -1.84%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 25,616.04 จุด ลดลง 407.91 จุด, -1.57%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 0.33 ดอลลาร์ หรือ 0.48%ซื้อขายที่ 69.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 0.4 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ซื้อขายที่ 65.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
