HoonSmart.com>>ส่อง ! แนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ก่อนแถลงปลายก.ย.นี้ จัดมาโครงการคนละครึ่ง เร่งพัฒนาระบบเตือนภัยและป้องกันภัย รวมไปถึงจะยุบสภาฯภายในม.ค. 2569 หนุน Domestic play ทั้งค้าปลีก, เครื่องดื่ม, เช่าซื้อ, รับเหมา, ขนส่ง ท่องเที่ยว แนะนำ CPALL, CPAXT, BJC, MTC, KTC, SAWAD, SAV, CBG, OSP, BDMS, BH, BCH, STECON, DOHOME, GLOBAL, ADVANC, THCOM, BBIK, AEONTS, CENTEL, ERW, ICHI, KTB, OR, PTG
บล.กรุงศรี ระบุ ครม.ภายใต้การนำนายกอนุทินฯ ถวายสัตย์แล้ววานนี้ หลังประชุม ครม. มีแนวทางสำคัญๆ แม้โดยรวมใกล้เคียงทิศทางตลาดประเมินช่วงก่อนหน้า โดยอิง SET ที่ปรับฐานมาอยู่บริเวณแนวรับ 1,280-1,270 จุด คาดหนุนจิตวิทยาบวกหุ้นเชื่อมโยง ตามแนวทางแต่ละส่วน ดังนี้
1. ด้านเศรษฐกิจมุ่งลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนผ่านโครงการคนละครึ่ง การลดรายจ่ายลดค่าเดินทางค่าขนส่งและค่าพลังงานพร้อมผลักดันโครงการที่เข้าถึงประชาชนโดยตรงและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนจิตวิทยาบวกต่อหุ้นอิง Domestic ค้าปลีก CPALL, CPAXT, BJC เครื่องดื่ม เช่าซื้อ MTC, KTC, SAWAD ส่วนโรงไฟฟ้าเป็นกลาง
2. ความมั่นคงกรณีพิพาทไทย-กัมพูชาจะดำเนินมาตรการทางการทูตควบคู่กับการทหารบวกต่อหุ้นที่มีธุรกิจเชื่อมโยงกัมพูชา SAV, CBG, OSP, BDMS, BH, BCH
3. ด้านภัยพิบัติ เร่งพัฒนาระบบเตือนภัยและป้องกันภัยรับเหมา STECON
4. ด้านสังคมปราบปรามอาชญากรรมร้ายแรงอย่างเด็ดขาดโดยเฉพาะขบวนการค้ายาเสพติดการพนันทุกรูปแบบ(รวมถึงออนไลน์) และเครือข่ายฉ้อโกงประชาชนโดยยืนยันชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุนธุรกิจกาสิโนในรูปแบบ Entertainment Complex และจะไม่มีการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย
5. ประกาศกรอบเวลาทางการเมืองครั้งสำคัญเตรียมยุบสภาผู้แทนราษฎรภายในสิ้นเดือนมกราคม 2569 เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนจิตวิทยาบวกต่อ SET และหุ้นอิงภายใน นอกจากนี้รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ(จิตวิทยาบวก CPALL, DOHOME, GLOBAL และเช่าซื้อ MTC, KTC, SAWAD) โดยจะออกมาตรการลดต้นทุนการผลิตและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายควบคู่ไปกับการส่งเสริมเกษตรอัจฉริยะ(จิตวิทยาบวกหุ้นเทคฯ ADVANC, THCOM, BBIK)พัฒนาระบบสาธารณสุขให้ครอบคลุมและปฏิรูปกฎหมายการศึกษาเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า นายกฯย้ำ 4 ประเด็นที่จะผลักดันหลังประชุมครม.นัดพิเศษ คือ เศรษฐกิจความมั่นคงของประเทศปัญหาภัยพิบัติและภัยสังคมคือภารกิจหลักของรัฐบาลในช่วง 4 เดือน โดยจะเร่งแถลงนโยบายผ่านสภาภายในวันที่ 28-30 ก.ย.68 โดยจะใช้เวลาแถลงนโยบาย 2 วัน ขณะที่ย้ำจะยุบสภาภายใน 4 เดือนนับตั้งแต่วันแถลงนโยบายทำให้การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในเดือนมี.ค. 2569 หรือ ช้าที่สุดคือช่วงต้นเดือน เม.ย. 2569 ขึ้นอยู่กับความพร้อมของกกต. โดยครั้งนี้ยังย้ำนโยบายเชิงเศรษฐกิจในการลดค่าครองชีพ ผลักดันโครงการคนละครึ่งและควบคุมราคาพลังงานและสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น
ทางฝ่ายมองภาพความชัดเจนใน Timeline การเมือง และการเดินหน้านโยบายเชิงเศรษฐกิจ ล้วนเป็นผลดีต่อ Sentiment ตลาด โดยมองหุ้น Domestic Stock เช่น กลุ่มค้าปลีก ขนส่ง ท่องเที่ยว และ การเงิน จะรับแรงหนุนโดยตรง
ด้านกลยุทธ์การลงทุน มองประเด็นความหวังมาตรการภาครัฐ แนะนำ หุ้น AEONTS, KTC, MTC, SAWAD, CPALL, CPAXT, CENTEL, ERW, ICHI, KTB, OR, PTG
บล.ไอร่า มองการแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 29 ก.ย. นี้ หากไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ Surprise ตลาดในทางที่ดี คาดอาจไม่ส่งผลต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
