ดาวโจนส์ปิดลบ 125 จุด นักลงทุนขายทำกำไรบางส่วนก่อนผลประชุมดอกเบี้ยเฟด

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ ดาวโจนส์ลดลง 125 จุด นักลงทุนขายทำกำไรบางส่วนก่อนรู้ผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” WTI เพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบรอเฟด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 16 กันยายน 2568 ปิดที่ 45,757.90 จุด ลดลง 125.55 จุด หรือ -0.27% ส่วนดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ถอยจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรบางส่วนก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,606.76 จุด ลดลง 8.52 จุด, -0.13%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,333.96 จุด ลดลง 14.79 จุด, -0.07%

หุ้น Nvidia และ Microsoft ซึ่งเป็นผู้นำหลักๆในตลาดขาขึ้นลดลง 1.6% และ 1.2% ตามลำดับ หุ้น Palantir และ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน

การประชุมเฟดสองวัน ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อวาน คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้การคาดการณ์ถึง 100%ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25%

สิ่งที่นักลงทุนจับตามองมากที่สุดคือการคาดการณ์ หรือ dot plot ของเฟดสำหรับอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี และสมาชิกผู้มีสิทธิออกเสียงจะคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกหนึ่งครั้งหรือสองครั้งก่อนสิ้นสุดปี 2568 หรือไม่

นักลงทุนยังติดตามการแถลงข่าวของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญานเกี่ยวกับทิศทางของนโยบายการเงิน การประชุมครั้งนี้ยังมาพร้อมกับความตึงเครียดทางการเมือง หลังจากที่วุฒิสภาได้รับรอง สตีเฟน มิแรน ตามการเสนอชื่อของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะผู้ว่าการของเฟด ส่งผลให้มิแรนสามารถลงคะแนนเสียงในการประชุมเฟดรอบนี้ได้ทัน

นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการหารือการค้าโลกและมาตรการภาษีศุลกากร reciprocal tariff ที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน

นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อวันอังคารว่า เขาคาดว่าจะมีการเจรจาเพิ่มเติมก่อนถึงกำหนดเส้นตาย และ ขณะนี้จีนเห็นว่าข้อตกลงการค้ามีความเป็นไปได้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนได้เสร็จสิ้นการเจรจาสองวันในกรุงมาดริดเมื่อวันจันทร์

ในสัปดาห์ที่การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจไม่มาก ข้อมูลล่าสุดที่นักลงทุนได้รับคือยอดค้าปลีกในวันอังคาร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง แม้อัตราเงินเฟ้อจะทรงตัวและตลาดแรงงานจะผันผวนก็ตาม ยอดค้าปลีกในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งมากกว่า 0.2% ที่คาดการณ์ไว้ และเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 5.0%

หุ้น Tesla พุ่งขึ้น 2% หลังฟื้นตัวจากที่ลดลงตั้งแต่ต้นปีเมื่อวันจันทร์ จากการที่ซีอีโอ Elon Musk เข้าซื้อหุ้น

หุ้น Oracle เพิ่มขึ้น 1.5% หลังจาก CBS News รายงานว่าบริษัทเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่เข้าร่วมในข้อตกลงซื้อ TikTok ระหว่างสหรัฐฯ และจีน คาดว่าทรัมป์และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนจะสรุปข้อตกลงและหารือเกี่ยวกับการค้าในวันศุกร์

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ท่ามกลางแรงกดดันจากภาคส่วนที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนเริ่มมีความระมัดระวังมากขึ้นก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะประกาศนโยบายการเงินที่คาดการณ์ไว้สูงในวันพุธ

ดัชนี STOXX 600 ลดลงไปที่ระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ โดยหุ้นกลุ่มการเงิน ธนาคาร และบริษัทประกันภัยลดลงระหว่าง 2% ถึง 2.1%

นักลงทุนคาดว่าการประชุมนโยบายสองวันของเฟดจะสิ้นสุดลงด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%ในวันพุธ ซึ่งอาจเป็นการตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายครั้งแรกในปีนี้ หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอลง นักลงทุนบางรายยังมองว่าอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ถึง 0.50%

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 550.79 จุด ลดลง 6.37 จุด, -1.14%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,195.66 จุด ลดลง 81.37 จุด, -0.88%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,818.22 จุด ลดลง 78.71 จุด, -1.00%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,329.24 จุด ลดลง 419.62 จุด, -1.77%

หุ้นของบริษัทจัดหางานได้รับผลกระทบอย่างหนักหลังจาก SThree บริษัทจัดหางานสัญชาติอังกฤษออกคำเตือนเรื่องผลกำไร ราคาหุ้น SThree ร่วงลง 26% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 บริษัทจัดหางานรายอื่นๆ ก็ลดลงเช่นกัน โดย Adecco Group ร่วงลง 5.1%, Hays ร่วงลง 4.1% และ Randstad ร่วงลงประมาณ 3%

หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้น 0.2% ขณะที่ L’Oreal ร่วงลง 2.9% หลังจากที่ Jefferies ปรับลดคำแนะนำการลงทุนของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเครื่องสำอางจาก “ถือ” ลงเป็น
“Underperform”

หุ้นทรัพยากรพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.34% จากราคาทองแดงที่สูงขึ้นหุ้น Schindler บริษัทผู้ผลิตลิฟต์ร่วงลง 3.4% หลังจากนักลงทุนขายหุ้นผ่านกระบวนการ bookbuilding process ที่ดิสเคานท์ลงประมาณ 8.4% จากราคาปิดล่าสุด

หุ้น Thyssenkrupp พุ่งขึ้น 4.3% หลังจากที่กลุ่มบริษัทจากเยอรมนีได้รับข้อเสนอซื้อกิจการหน่วยงานเหล็กแบบไม่ผูกมัดจากบริษัทในเครือ Naveen Jindal Group ของอินเดีย

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.93% ปิดที่ 64.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.53% ปิดที่ 68.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–