HoonSmart.com>>ดัชีดาวโจนส์ปิดร่วง 22 จุด สวนทาง S&P 500 ,Nasdaq พุ่งแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลงเกินคาด หนุนความหวังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับเพิ่มขึ้น ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 10 กันยายน 2568 ปิดที่ 45,490.92 จุด ลดลง 220.42 จุด หรือ -0.48% จากการร่วงลงของหุ้น Apple แต่ดัชนี S&P 500 และ ดัชนี Nasdaq พุ่งแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ หลังจากตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตลดลงเกินคาด ยิ่งสนับสนุนความคาดหวังของนักลงทุนที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,532.04 จุด เพิ่มขึ้น 19.43 จุด, +0.30% แต่อ่อนตัวลงจากที่เพิ่มขึ้นประมาณ 0.7% ในช่วงสูงสุดที่ 6,555.97 ซึ่งสร้างสถิติสูงสุดใหม่ในรอบวันเช่นกัน
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,886.06 จุด เพิ่มขึ้น 6.57 จุด, +0.03% หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบวัน ก่อนที่จะย่อตัวลงในช่วงบ่าย
ความเชื่อมั่นปรับตัวสูงขึ้นในช่วงแรก หลังจากกระทรวงแรงงานรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนสิงหาคมลดลง 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน จาก 0.7% เดือนกรกฎาคม ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Dow Jones คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายปีเพิ่มขึ้น 2.6% จาก 3.1% ในเดือนกรกฎาคม ต่ำกว่า 3.3% ที่นักวิเคราะห์คาด
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ลดลง 0.1% เช่นกันเมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายปีเพิ่มขึ้น 2.8% ต่ำกว่า 3.5% ที่นักวิเคราะห์คาด
ข้อมูลดัชนี PPI ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกก่อนการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)ที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในวันพฤหัสบดี ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวลง
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ารายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% หากตัวเลขออกมาใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ เฟด ก็น่าจะมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมวันที่ 17-18 กันยายน โดยเครื่องมือ Fedwatch ของ CME บ่งชี้ว่า นักลงทุนมองว่ามีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% และให้น้ำหนัก 10% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้
นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงหนุน จากการคาดการณ์รายได้ที่พุ่งสูงของ Oracle โดย ซีอีโอของบริษัทประกาศว่ารายได้จากคลาวด์จะพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากยอดจองจากผู้ทรงอิทธิพลในวงการ AIพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ราคาหุ้นของ Oracle ปิดตลาดสูงขึ้นกว่า 36% ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทแตะระดับ 922 พันล้านดอลลาร์ แซงหน้าบริษัทรายใหญ่อย่าง Eli Lilly JPMorgan Chase และ Walmart
หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 3.9% ขณะที่ AMD เพิ่มขึ้น 2.4% เนื่องจากนักลงทุนดูเหมือนจะแห่เข้า AI อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายการซื้อขาย ตลาดได้ย่อตัวลงในดัชนี S&P 500 มีหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวก
หุ้น Apple ลดลง 3.2% แม้เปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ iPhone รุ่นล่าสุด รวมถึง iPhone Air รุ่นใหม่ล่าสุด ในงานประจำปีประจำฤดูใบไม้ร่วงที่เมืองคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ แม้ได้รับแรงหนุนจาก Inditex บริษัทผู้ผลิตแฟชั่นรายใหญ่สัญชาติสเปน แต่ถูกหักล้างด้วยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
หุ้น Inditex เพิ่มขึ้น 6.4% หลังจากที่บริษัทระบุว่ายอดขายเพิ่มขึ้นระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม ถึง 8 กันยายน หลังจากความต้องการที่ซบเซามาหลายเดือน ซึ่งการปรับตัวขึ้นช่วยดันดัชนีอ้างอิงของสเปนขึ้น 1.25% สู่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ ขณะที่ดัชนีกลุ่มค้าปลีกของ STOXX 600 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4%
ดัชนี STOXX 600 ยังได้แรงหนุนจากดัชนีการบินและอวกาศและการป้องกันประเทศของยุโรป ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.44% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่โปแลนด์ยิงโดรนที่เข้ามาในน่านฟ้าระหว่างการโจมตีของรัสเซียในยูเครนตะวันตก
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 552.29 จุด ลดลง 0.10 จุด, -0.02%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,225.39 จุด ลดลง 17.14 จุด, -0.19%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,761.32 จุด เพิ่มขึ้น 11.93 จุด, +0.15%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,632.95 จุด ลดลง 85.50 จุด, -0.36%
การปรับขึ้นของตลาดโดยรวมถูกกดโดยกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ลดลงมากที่สุด โดยลดลง 1.65% หลังทำสถิติปรับขึ้นติดต่อกัน 5 วัน ซึ่งเป็นสถิติที่นานที่สุดในรอบ 3 เดือน
หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการลดลง 1.4%
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แต่งตั้งเซบาสเตียน เลอกอร์นู อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ในรอบไม่ถึง 2 ปี
S&P Global กล่าวว่าการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสคนใหม่จะไม่ช่วยแก้ปัญหาทางการคลังและสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่ไม่แน่นอนของประเทศได้มากนัก
เลอกอร์นู มีภารกิจผลักดันงบประมาณปี 2026 ให้ผ่านรัฐสภา เพื่อเริ่มต้นลดการขาดดุลงบประมาณครั้งใหญ่ที่สุดของยูโรโซน
หุ้น Novo Nordisk เพิ่มขึ้น 3.6% หลังจากที่บริษัทระบุว่าอาจลดจำนวนพนักงานลงประมาณ 11.5% เนื่องจากบริษัทกำลังพยายามรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดยาลดน้ำหนัก
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะตัดสินใจนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดี โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่นักลงทุนจับตาการเผยแพร่ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ แทน
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.66% ปิดที่ 63.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.66% ปิดที่ 67.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
