HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดบวก ทำนิวไฮ นักลงทุนก้าวข้ามความกังวลภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังตัวเลขการจ้างงานที่ทบทวนใหม่แสดงความอ่อนแอของตลาดแรงงาน หนุนเฟดปรับลดดอกเบี้ย ติดตามข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับเพิ่มขึ้น ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 9 กันยายน 2568 ปิดที่ 45,711.34 จุด เพิ่มขึ้น 196.39 จุด หรือ +0.43% ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ดัชนี S&P500 และNasdaq ทำนิวไฮเช่นกัน นักลงทุนก้าวข้ามความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังตัวเลขการจ้างงานที่ทบทวนใหม่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของตลาดแรงงาน หนุนการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เตรียมพร้อมรับข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญ ซึ่งอาจมีผลต่อการประเมินการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,512.61 จุด เพิ่มขึ้น 17.46 จุด, +0.27%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,879.49 จุด เพิ่มขึ้น 80.79 จุด, +0.37%
หุ้น UnitedHealth เพิ่มขึ้น 8.6% และมีส่วนหนุนดัชนีดาวโจนส์ หลังจากที่บริษัทระบุในการยื่นเอกสารต่อหน่วยงานกำกับดูแลว่าคาดว่าสมาชิกส่วนใหญ่จะลงทะเบียนแผนประกันสุขภาพ Medicare ที่มีราคาสูงในปีหน้า
ดัชนี S&P 500 ได้รับแรงหนุนจากหุ้นพลังงานและบริการสื่อสารหนุนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1.4% ตามมาด้วยกลุ่มเฮลธ์แคร์และสาธารณูปโภค โดยเพิ่มขึ้น 0.8%
ข้อมูลตลาดแรงงานที่สำนักงานสถิติแรงงานเผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ถึง 911,000 ตำแหน่งในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งเป็นการปรับลดตัวเลขลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นักเศรษฐศาสตร์ในการสำรวจของบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า การจ้างงานในระบบเศรษฐกิจลดลงประมาณ 680,000 ตำแหน่ง
เจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกน เชส กล่าวกับ CNBC ทันทีที่รายงานฉบับนี้ออกมาว่า
“ผมคิดว่าเศรษฐกิจกำลังอ่อนแอลง ผมไม่รู้ว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือเพียงแค่อ่อนแอลง”
แม้ข้อมูลมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นเพียงเล็กน้อยในวันอังคาร เนื่องจากเป็นข้อมูลเมื่อหกเดือนที่แล้ว แต่รายงานฉบับนี้อาจตอกย้ำเสียงเรียกร้องให้เฟดดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจังมากขึ้นในปีนี้
นักลงทุนเชื่อมั่นว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในการประชุมคณะกรรมการ นโยบายของเฟดในสัปดาห์หน้า แต่มีคำถามว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้จะมากแค่ไหน และจะเป็นผลดีต่อหุ้นหรือไม่
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนมั่นใจว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 16-17 กันยายนและให้น้ำหนัก 10% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%
รายงานอัตราเงินเฟ้อซึ่งมีความสำคัญต่อแนวคิดของเฟดในการประชุมครั้งหน้ามีกำหนด
เริ่มจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ตั้งแต่วันพุธ ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะตามมาในวันพฤหัสบดี ตัวเลข CPI และ PPI จะเป็นเครื่องชี้วัดว่าราคาที่สูงขึ้นอาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่หรือยาวนานหรือไม่
หุ้น Apple ลดลง 1.5% หลังเริ่มงานแสดงอุปกรณ์ต่างๆงานประจำปีประจำฤดูใบไม้ร่วง และเปิดตัว iPhone 17 และ iPhone Air รวมถึงนาฬิการุ่นใหม่และ AirPods ที่ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ
หุ้น Broadcom ลดลง 2.6%หลังจากพุ่งขึ้นใน 5 วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก โดยได้รับแรงหนุนจากข้อตกลงควบรวมกิจการของ Anglo American และราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ช่วยชดเชยความไม่แน่นอนในฝรั่งเศส หลังจากที่นายกรัฐมนตรีฟรองซัวส์ บายรู ต้องออกจากตำแหน่งในการลงมติไม่ไว้วางใจ
ดัชนีกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานเพิ่มขึ้นประมาณ 1.3%
ราคาหุ้น Anglo American บริษัทเหมืองแร่พุ่งขึ้น 8.7% หลังจากประกาศว่าได้ตกลงที่จะควบรวมกิจการกับบริษัท Teck Resources ของแคนาดา ในข้อตกลงมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า Anglo Teck Plc หุ้น Glencore ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่เช่นกัน ก็พุ่งขึ้น 5.1% ด้วย
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 552.39 จุด เพิ่มขึ้น 0.35 จุด, +0.06%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,242.53 จุด เพิ่มขึ้น 21.09 จุด, +0.23%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,749.39 จุด เพิ่มขึ้น 14.55 จุด, +0.19%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,718.45 จุด ลดลง 88.68 จุด, -0.37%
ตลาดฝรั่งเศสบวกแม้ความกังวลจะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นในตลาดพันธบัตร เนื่องจากความต้องการของนักลงทุนรายใหญ่ในการถือพันธบัตรฝรั่งเศสอายุ 10 ปี ที่มากกว่าพันธบัตรเยอรมันอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรอ้างอิง ดันให้อัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นประมาณ 7 จุด
การแพ้การโหวตไม่ไว้วางใจ ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการคลังที่ตามมา ผลักดันให้ฝรั่งเศสเข้าใกล้การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ โดย Fitch เตรียมเริ่มดำเนินการทบทวนอันดับ เครดิตในวันศุกร์นี้ ซึ่ง คีรัน กาเนช นักกลยุทธ์ด้านสินทรัพย์หลายประเภทจาก UBS Global Wealth Management กล่าวว่า มีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดอันดับในการประชุมวันที่ 12 กันยายน
กลุ่มน้ำมันและก๊าซธรรมชาติพุ่งขึ้น 1.3% จากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่กองทัพอิสราเอลโจมตีแกนนำกลุ่มฮามาสในกาตาร์
หุ้นบริการทางการเงินร่วงลง 0.9% หลังจากที่เพิ่มขึ้นเกือบ 1.5% ในการซื้อขายก่อนหน้า
ในอิตาลี หุ้น Monte dei Paschi di Siena เพิ่มขึ้น 6.3% หลังจากธนาคารแห่งนี้ได้รับหุ้นในสัดส่วน 62% ของเป้าหมายการเสนอซื้อ Mediobanca ราคาหุ้นของ Mediobanca เพิ่มขึ้น 5.9%
หุ้น Novartis บริษัทเภสัชยักษ์ใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ลดลง 0.2% หลังจากประกาศว่าจะเข้าซื้อกิจการ Tourmaline Bio ในข้อตกลงมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
กลุ่มสื่อพุ่งขึ้น 1% โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้น 2.1% ของหุ้น Universal Music Group หลังจากที่ Citigroup ปรับเพิ่มอันดับหุ้นเป็น “ซื้อ” จาก “ถือ”
หุ้น Saab ผู้ผลิตอุปกรณ์ป้องกันประเทศร่วงลง 2.4% สู่ระดับต่ำสุดของดัชนีอ้างอิง
หลังจากที่ Barclays เริ่มทำการวิเคราะห์หุ้นรายนี้ด้วยคำแนะนำการลงทุนเรตติ้ง underweight หลังจากไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ที่ Morgan Stanley เริ่มทำการวิเคราะห์ด้วยคำแนะนำที่ใกล้เคียงกัน
ในปลายสัปดาห์นี้ นักลงทุนจับการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปและข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกา
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ หรือ 0.59% ปิดที่ 62.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 37 เซนต์ หรือ 0.56% ปิดที่ 66.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–

