หุ้นโตเกียว-เอเชียบวก นายกฯญี่ปุ่นประกาศลาออก รอข้อมูลการค้าจีน

HoonSmart.com>>”ตลาดหุ้นโตเกียว” เช้านี้ปรับตัวขึ้น แรงซื้อหุ้นกลุ่มผู้ส่งออกจากเงินเยนอ่อนค่า หลังนายกฯ ญี่ปุ่น “ชิเงรุ อิชิบะ” ประกาศลาออกในช่วงสุดสัปดาห์ “ตลาดหุ้นเอเชีย” บวกนักลงทุนประเมินการประกาศลาออกของนายกฯ ญีปุ่น พร้อมจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาค

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับขึ้น ด้วยแรงซื้อในหุ้นกลุ่มผู้ส่งออกจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชิเงรุ อิชิบะ แสดงความตั้งใจที่จะลาออกเมื่อวันก่อน
แถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรี เกิดขึ้นหลังจากแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นหลายสัปดาห์จากความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งระดับชาติเมื่อปลายปีที่แล้ว

สเตฟาน อังริก หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ตลาดญี่ปุ่นและตลาดชายขอบMoody’s Analytics วิเคราะห์ว่า โคอิซูมิ ชินจิโร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและบุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรี มีแนวโน้มที่จะเข้ารับตำแหน่ง ขณะเดียวกัน ทาคาอิจิ ซานาเอะ ลูกศิษย์ของอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ ชินโซ และรองชนะเลิศในการเลือกตั้งสมาชิกพรรคเมื่อปีที่แล้ว ก็เป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงตำแหน่งสำคัญเช่นกัน

ริชาร์ด เคย์ ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Comgest กล่าวว่า การตอบรับเชิงบวกอย่างมาก ของตลาดในวันจันทร์นั้น เกินคาด และว่าทาคาอิจิ ซึ่งสนใจเรื่องการผ่อนคลายกฎระเบียบและไม่สนใจการขึ้นอัตราดอกเบี้ย น่าจะเป็นตัวเต็งที่จะขับเคลื่อนการเติบโต และจะเป็นปัจจัยต่อการฟื้นตัวของตลาดในวันนี้

ในตลาด Prime Market หุ้นที่นำการปรับขึ้น ได้แก่ กลุ่มบริการ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มเครื่องจักร

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 30 ปี พุ่งขึ้นมาที่ 3.272% หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 1%ในปีนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 20 ปี พุ่งขึ้นมาที่ 2.676%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนให้ความสำคัญกับภาวะเงินเฟ้อที่ต่อเนื่อง นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น และความไม่แน่นอนทางการคลัง

นักวิเคราะห์จาก BMI ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของ Fitch Solutions ระบุว่า ขณะนี้ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนที่ยืดเยื้อไปจนถึงไตรมาสที่ 4 ปี 2568 แม้ว่าโดยปกติแล้วผู้นำพรรค LDP คนต่อไปจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยอัตโนมัติ แต่ในทางทฤษฎีแล้ว ฝ่ายค้านอาจรวมตัวกันภายใต้ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เป็นคู่แข่ง

เวลา 9.00 น. ตามเวลาญี่ปุ่น เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 148.31-32 เยน เทียบกับ 147.36-46 เยนในนิวยอร์ก และ 148.21-23 เยนในโตเกียว เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันศุกร์

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า บัญชีเดินสะพัดในเดือนกรกฎาคมเกินดุล 2.68 ล้านล้านเยน (1.81 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากการขาดดุลการค้าสินค้าลดลง
การค้าสินค้าของประเทศขาดดุล 1.894 แสนล้านเยน โดยการส่งออกลดลง 4.9% เหลือ 9.01 ล้านล้านเยน และการนำเข้าลดลง 7.4% เหลือ 9.20 ล้านล้านเยน ขณะที่รายได้ที่ญี่ปุ่นได้รับจากการลงทุนในต่างประเทศ อยู่ที่ 4.07 ล้านล้านเยน

ณ เวลา 9.47 น. ตามเวลาประเทศไทย

ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 43,630.54 จุด เพิ่มขึ้น 611.79 จุด, +1.42%

ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปรับขึ้น ขณะที่นักลงทุนประเมินการประกาศลาออกของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ และจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาค

ความสนใจอยู่ที่ผู้ที่จะมาแทนที่อิชิบะ โดยนักลงทุนกังวลว่าผู้สนับสนุนนโยบายการเงินและการคลังที่ผ่อนคลายมากขึ้น เช่น ซานาเอะ ทาคาอิจิ อดีตสมาชิกพรรคเสรีประชาธิปไตย ผู้ซึ่งวิพากษ์
วิจารณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจเข้ามารับตำแหน่งคนต่อไป

จีนมีกำหนดเผยแพร่ข้อมูลการค้าเดือนสิงหาคม ที่อาจบ่งชี้ผลกระทบของสงครามการค้าของสหรัฐฯ ต่อการส่งออกและเศรษฐกิจโดยรวม

ขณะเดียวกันข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ ก็ยิ่งทำให้การคาดการณ์ถึงการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในเดือนนี้เพิ่มมากขึ้น

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 22,000 ตำแหน่ง เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่า 75,000 ตำแหน่งที่นักเศรษฐศาสตร์ในการสำรวจของ Dow Jones คาดการณ์ไว้อย่างมาก อัตราการว่างงานยังเพิ่มขึ้นเป็น 4.3% สอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้

ในสัปดาห์นี้นักลงทุนรอการรายงานอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี เพื่อประเมินความเสี่ยงของราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น

ฮารุน ทิลัก หัวหน้าฝ่ายตลาดทุนโลกอเมริกาเหนือของ Validus Risk Management กล่าวว่า แม้นักลงทุนส่วนใหญ่จะยังคงมองว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเฟดเดือนกันยายน แต่ก็คาดว่าตลาดจะคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในขนาดใหญ่ขึ้น ถึง 0.50%

เครื่องมือ FedWatch ของ CME แสดงให้เห็นว่า เทรดเดอร์ได้ประเมินราคาการลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในปลายเดือนนี้ และมีโอกาส 8% ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% อีกทั้งคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะผ่อนคลายลง 0.68% ภายในสิ้นปีนี้

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,812.17 จุด ลดลง 0.335 จุด, -0.01%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 25,470.3 จุด เพิ่มขึ้น 52.32 จุด, +0.21%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 3,208.4 จุด เพิ่มขึ้น 3.28 จุด, +0.1%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 24,606.28 จุด เพิ่มขึ้น 111.7 จุด ,+0.46%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 0.72 ดอลลาร์หรือ 1.16% ซื้อขายที่ 62.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 0.77 ดอลลาร์ หรือ 1.18% ซื้อขายที่ 66.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–