“ทีทีบี”เร่งเครื่องสินเชื่อยั่งยืน 7.8 หมื่นลบ. พึ่ง SETCarbon ดึง 1 พันบริษัทเข้าถึงทุนสีเขียว

HoonSmart.com>> ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต เร่งเครื่องธนาคารเพื่อความยั่งยืน หลังสินเชื่อสีเขียวทะลุ 7.8 หมื่นล้านบาท ล่าสุดใช้แพลตฟอร์ม SETCarbon เป็นกลไกใหม่ดึง 1,000 บริษัทเข้าถึงสินเชื่อต้นทุนต่ำควบสิทธิพิเศษ ตลท.ปลื้มแบงก์เอกชนแห่งแรกเข้าร่วม เดินหน้าหาพันธมิตรเพิ่ม

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนปี 2568 อีก 35,000 ล้านบาท หลังจากยอดสินเชื่อสะสมตั้งแต่ปี 2562 จนถึงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 มีกว่า 78,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ จะมีการนำกรอบ B+ESG ที่ผสานธุรกิจและความยั่งยืนเป็นเนื้อเดียวกัน มาสนับสนุนให้ลูกค้าธุรกิจและ SME ปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในกติกาใหม่ของโลก เพราะการมีข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ถูกต้อง โปร่งใส มีมาตรฐาน จะเป็นจุดเริ่มต้นในการวางแผนการลดคาร์บอนของธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะสร้างข้อได้เปรียบให้ผู้ประกอบการมีความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสเข้าถึงทั้งเงินทุนและตลาดใหม่ ๆ สร้างความมั่นใจให้คู่ค้าและผู้บริโภค ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อยอดขายและความสามารถในการเติบโตระยะยาว โดยทางธนาคารได้ช่วยลูกค้าตั้งแต่การประเมินความเสี่ยงและผลกระทบทางธุรกิจ และสนับสนุนให้คำปรึกษาด้วยโซลูชันที่ตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านธุรกิจ

“ข้อมูลคาร์บอนที่ถูกต้องคือกุญแจสำคัญของการปรับตัวสู่ธุรกิจยั่งยืน และยังช่วยให้ผู้ประกอบการมีแต้มต่อทั้งในการแข่งขัน การเข้าถึงตลาดใหม่ และการสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค”นายปิติ กล่าว

นายปิติ กล่าวว่า ทีทีบีเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่นำระบบ SETCarbon มาใช้กับลูกค้าในเครือข่ายของธนาคาร ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในการนำข้อมูล ESG ไปใช้ประกอบในการพิจารณาสินเชื่อ โดยคัดเลือกกลุ่มลูกค้าให้เข้าร่วมโครงการ จำนวนกว่า 1,000 รายจากอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ อาทิ อุตสาหกรรมเคมี การขนส่ง อาหารและเครื่องดื่ม การโรงแรม เป็นต้น

จากปัจจุบันที่ได้ให้ความรู้เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการตระหนักถึงผลกระทบเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสำหรับปรับตัวและเปลี่ยนผ่านธุรกิจ ด้วยการจัดสัมมนาและการอบรมที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการขั้นตอนและวิธีการจัดทำคาร์บอนฟุตพรินต์ขององค์กรให้กว่า 500 บริษัทในปีที่ผ่านมา

แพลตฟอร์ม SETCarbon จะเป็นเครื่องมือที่มาช่วยให้ลูกค้าธุรกิจของธนาคารที่ไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สามารถคำนวณและจัดเก็บคาร์บอนฟุตพรินต์ได้อย่างเป็นระบบและมีมาตรฐานได้ดียิ่งขึ้น ช่วยในการเปลี่ยนผ่านให้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนกว่า 300 แห่ง หรือประมาณ 33% ใช้ระบบ SETCarbon ในการเปิดเผยข้อมูลด้านการจัดการสภาพภูมิอากาศ เสมือนเป็นพาสปอร์ตทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงสินเชื่อที่มีสิทธิประโยชน์มากกว่าสินเชื่อทั่วไป โดยตลท. มีแผนขยายไปสู่ผู้ประกอบการทุกขนาด เพื่อยกระดับการเปิดเผยข้อมูลและเพิ่มโอกาสเข้าถึงเงินทุนที่สอดรับกับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
ความร่วมมือกับทีทีบีในครั้งนี้ถือเป็นจุดเชื่อมสำคัญของภาคการเงินและภาคธุรกิจไทย ในการสร้างระบบนิเวศด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน ทำให้ธุรกิจเข้าถึงสินเชื่อของทีทีบีได้ง่ายขึ้น และทีทีบีจะมีข้อมูลเพียงพอในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อสีเขียวให้ธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นความร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม

ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลท.จะมีการหาพันธมิตรที่เป็นธนาคารพาณิชย์ และธนาคารรัฐเข้ามาใช้ระบบ SETCarbon มากขึ้น จากปัจจุบันมี 2 ธนาคาร คือ ธนาคารธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) และล่าสุดคือธนาคารทีเอ็มบีธนชาต เพื่อให้บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กเข้าถึงสินเชื่อสีเขียวที่มีสิทธิพิเศษและมีระบบ และคาดหวังที่จะเห็นบริษัทจดทะเบียนกว่า 50% เข้ามาใช้ระบบ SETCarbon ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่จะมีระบบการจัดการ การคำนวณ และการรายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของตัวเองอยู่แล้ว