ก.ล.ต.ปรับ “พีรพงศ์ จิระเสวีจินดา” ส่งออเดอร์ JMT ทำตลาดเข้าใจผิด

HoonSmart.com>>ก.ล.ต.ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับ “พีรพงศ์ จิระเสวีจินดา”  อดีตซีอีโอ บลจ.บัวหลวง ส่งคำสั่งขาย JMT จำนวน 30 ล้านหุ้น แล้วถอนออก  สั่งปรับ 704,187 บาท พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร

ตามที่ปรากฏข่าวและสื่อออนไลน์ว่า  วันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (บลจ. บัวหลวง) มีการส่งคำสั่งขายหุ้น JMT จำนวน 30 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นการขายหุ้นในปริมาณมาก และยกเลิกคำสั่งขายออกทั้งหมดในเวลาต่อมา อันเป็นการทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับปริมาณการขายหุ้น JMT ในกรณีดังกล่าว

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ดำเนินการตรวจสอบ และพบว่า วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 (1 วันทำการ) การส่งคำสั่งขายหุ้น JMT ตามที่กล่าวมาข้างต้น มาจากบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของ บลจ. บัวหลวง ซึ่งส่งคำสั่งซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย) จำกัด

ขณะเกิดเหตุ นายพีรพงศ์ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการกองทุนของ บลจ. บัวหลวง เป็นผู้ส่งคำสั่งขายหุ้น JMT ในบัญชีดังกล่าวผ่านดีลเลอร์ของ บลจ. บัวหลวง ในปริมาณมากและมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปริมาณคำเสนอขายรวมทั้งตลาดในแต่ละระดับราคา ณ ขณะนั้น

และต่อมาได้ยกเลิกคำสั่งเสนอขายดังกล่าวทั้งหมดออกจากระบบ ทั้งนี้ การส่งคำสั่งขายดังกล่าวของนายพีรพงศ์ ทำไปเพื่อต้องการทดสอบตลาด ซึ่งไม่ได้มีเจตนาให้เกิดการซื้อขายจริง อันเป็นการทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับปริมาณการซื้อขายหุ้น JMT

การกระทำของนายพีรพงศ์  เป็นความผิดฐานส่งคำสั่งขายหุ้น JMT อันทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ตามมาตรา 244/3(1) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ* กับนายพีรพงศ์
โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งให้นายพีรพงศ์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 704,187 บาท

รวมถึงห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 7 เดือน และ
ห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลา 14 เดือน

มาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนดจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด

หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่อัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด

ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง

 

———————————————————————————————————————————————————–