HoonSmart.com>>ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ เดินหน้าเพิ่มรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics เป็น 30-35% ของรายได้รวม มองครึ่งปีหลัง 2568 การค้าโลกฟื้นตัว หลังมาตรการภาษีสหรัฐเริ่มชัดเจน ลุ้นสงครามยูเครนยุติ โลจิสติกส์โลกจะฟื้น หนุนอีคอมเมิร์ซไทยพุ่ง
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) เปิดเผยในงานนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน (Opportunity Day) ว่า บริษัทเดินหน้าที่จะเพิ่มรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics ให้เพิ่มสัดส่วนเป็น 30-35% ของรายได้รวมตามเป้าหมายที่วางไว้ และตั้งเป้าพัฒนาบริษัทเป็น “Blue Chip Stock” ของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทย
สำหรับ ในช่วง 6 เดือนแรก รายได้จาก ธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญ ผลจากการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ๆ ที่บริษัทได้จัดตั้งขึ้น ช่วยลดความผันผวนจากธุรกิจ Freight ได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมามีความไม่แน่นอนทางด้านสงครามการค้า สงครามระหว่างประเทศ และกำแพงภาษี ทำให้การส่งออกมีการลดลง ซึ่งกระทบต่อธุรกิจโลจิสติกส์ รวมถึงกระทบต่อรายได้ของบริษัทลีโอฯ ด้วย

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบันดีขึ้นจากปัจจัยบวกด้านมาตรการภาษีของสหรัฐที่เริ่มชัดเจนขึ้น ทำให้แนวโน้มการค้าโลกในครึ่งหลังปี 2568 มีสัญญาณฟื้นตัว ทำให้ตลาด e-commerce เติบโตตามไปด้วย จะเป็นแรงหนุนสำคัญให้รายได้ของธุรกิจโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น รวมถึง LEO ด้วย
“ไทยไม่ได้รับผลกระทบลบโดยตรงจากมาตรการตรวจสอบแหล่งผลิตของสหรัฐฯ แต่ผู้ส่งออกไทยต้องเตรียมความพร้อมด้านเอกสารและความโปร่งใสในการผลิตให้มากขึ้น”นายเกตติวิทย์ กล่าว
นายเกตติวิทย์ กล่าวว่า ลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทที่ส่งสินค้าไปสหรัฐฯ ระบุว่า ศุลกากรสหรัฐฯ เข้มงวดในการตรวจสอบโรงงานและซัพพลายเชน โดยนอกจากตรวจเอกสารการผลิตแล้ว ยังต้องแสดง บิลค่าไฟ รายชื่อพนักงาน และหลักฐานการโอนเงินเดือน เพื่อพิสูจน์ว่ามีการผลิตจริงในประเทศไทย
ทั้งนี้ ประเมินว่าในช่วง ไตรมาส 3-4 ปี 2568 สถานการณ์การค้าโลกจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก จากปัจจัยดังนี้ การค้าโลกผ่อนคลาย ความตึงเครียดด้านภาษีนำเข้าลดลง ด้านธุรกิจ e-Commerce โตต่อเนื่อง หลังชะลอตัวช่วงต้นปี คาดว่ายอดสั่งซื้อกลับมาขยายตัว โดยเฉพาะจากแคมเปญ วันที่ 9 เดือน 9 วันที่ 10 เดือน 10 และ วันที่ 11 เดือน 11 ที่จะมีการสั่งซื้อสินค้าเพื่อรอรับช่วงเทศกาลคริสมาสต์ และปีใหม่
นอกจากนี้ มาตรการภาษีชัดเจนช่วยกระตุ้นการส่งออกสินค้าจีนผ่านช่องทาง e-commerce ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อการขนส่งสินค้าของ LEO ล่าสุด สำนักงานพาณิชย์เทศบาลเมืองคุนหมิงได้แต่งตั้งบริษัท LEO Sourcing & Supply Chain Company Limited ให้เป็นศูนย์บริการการค้าระหว่างประเทศ (International Trade Service Center) ภายใต้โครงการ One Belt One Road ณ เมืองคุนหมิง ประเทศจีน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศ ผ่านการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ การจัดหาสินค้า และบริการด้านซัพพลายเชนที่มีประสิทธิภาพ
นายเกตติวิทย์ กล่าวว่า แม้การผลิตสินค้า B2B บางประเภทจากจีนอาจต้องย้ายฐานการผลิต แต่ไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มได้อานิสงส์จากการย้ายซัพพลายเชน ขณะที่ความต้องการโลจิสติกส์สำหรับ e-commerce และ cross-border trade เพิ่มสูงขึ้น
“หาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สามารถผลักดันให้เกิดการเจรจาสันติภาพในสงครามยูเครนได้ จะเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อการค้าโลกและการลงทุน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์และอีคอมเมิร์ซทั่วโลก”นายเกตติวิทย์ กล่าว
