“คิงส์ฟอร์ด”คาดดัชนีวันนี้ทรงตัว ศาลตัดสินคดี ม.112 “ทักษิณ”

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีวันนี้ทรงตัว รอถ้อยแถลงประธานเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย-คำวินิจฉัยคดี 112 ของอดีตนายกทักษิณ วางแนวรับดัชนี 1,230 – 1,240 จุด แนวต้าน 1,250 – 1,260 จุด แนะนำทยอยซื้อช่วงดัชนีอ่อนตัว หุ้นเด่นแนะ SJWD-TEGH

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,230 – 1,240 จุด แนวต้าน 1,250 – 1,260 จุด คาดดัชนีมีโอกาสทรงตัว ระหว่างผลการประชุม ธนาคารกลางที่แจ๊คสัน โฮล ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยหรือไม่ และรอคำวินิจฉัยคดี 112 ของคุณทักษิณ ดังนั้นจึงแนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวกลุ่มปลอดภัย เช่น GULF,GPSC,CPF,GFPT กลุ่มนิคม ฯ AMATA, WHA คาดกำไรในงวดครึ่งปีหลังยังเติบโตดี จากการลงทุนด้าน Data Center ของต่างชาติ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดวานนี้ -0.34%, S&P500 -0.40%, Nasdaq -0.34% จากแรงขายกลุ่มสินค้าอุปโภค -1.18%,สาธารณูปโภค -0.71% ขณะที่กลุ่มพลังงาน +0.71%, วัสดุ +0.26% โดยนักลงทุนรอถ้อยแถลงของประธานเฟดในการประชุมที่แจ็คสัน โฮล ช่วงค่ำวันนี้

นักวิเคราะห์คาดอาจส่งสัญญาณเชิง Hawkish เนื่องจากคณะกรรมการเฟดส่วนใหญ่ในการประชุม ก.ค. ยังกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อมากกว่าตลาดแรงงานสหรัฐที่ชะลอตัวส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 235,000 สูงกว่าคาดที่ 226,000 ราย และ US PMI รวมภาคผลิต & บริการ ส.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 55.4 & คาด 53.5

สำหรับหุ้นเด่นแนะนำ SJWD (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 12.30 บาท) แนวโน้มกำไร 2H68 อยู่ในเกณฑ์ดีหนุนจากดำเนินงานตามแผนธุรกิจที่สำคัญ ได้แก่ การเตรียมการขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของฐานทุน การทยอยฟื้นตัวของธุรกิจหลัก โดยเฉพาะกลุ่มคลังสินค้าห้องเย็น การเปิดโครงการ Longson ของกลุ่ม SCC และการรุกขยายธุรกิจใหม่ไปยังเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศ เช่น การขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิระหว่างไทย-จีน รวมถึงการบริหารจัดการ SG&A และการลดต้นทุนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพหลังจากการควบรวมกิจการ

ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรปี 68-69 อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท (flat YoY) และ 1.2 พันล้านบาท (+10%YoY)

หุ้น TEGH (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 4.50 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 211 ล้านบาท (+110%YoY, +20%QoQ) แม้จะมีแรงกดดันจากธุรกิจยางที่อ่อนตัว QoQ บ้างจากราคาขายที่ลดลง แต่มีแรงหนุนจาก Fx Gain และ ธุรกิจปาล์ม(ตามSeasonal Effect, มีการติดตั้ง Boiler ลูกใหม่/ Sterilizer ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น) ส่วนการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง แม้มีโอกาสชะลอตัวจากฐานสูงในช่วงครึ่งแรก แต่ภาพรวมคาดจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีตามการเพิ่มสัดส่วนยาง EUDR

นอกจากนี้ TEGH* ยังมี Story การ Spinoff TEBP (ธุรกิจกากอินทรีย์, Biogas, ไฟฟ้า)ปัจจุบัน ตลาดคาดกำไรสุทธิของ TEGH* ปี68 และ69 ที่ 675 ล้านบาท (+21%YoY) และ 782 ล้านบาท (+16%YoY)