HoonSmart.com>>”นอร์ทอีส รับเบอร์” (NER) ปรับลดเป้ารายได้ปี 68 เหลือ 3.25 หมื่นล้านบาท จากเดิม 3.4 หมื่นล้านบาท และลดเป้ายอดขายลงมาที่ 4.7 แสนตัน จากเดิม 5 แสนตัน เหตุจากปัญหาไทย-กัมพูชา ส่วนใหญ่เป็นเรื่องซื้อวัตถุดิบ ส่วนผลงานไตรมาส 3/68 เล็งโตทั้ง QoQ และ YoY จากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ผ่านมา คาดหวังจะเคลมประกันได้ในไตรมาส 4/68
นายศักดิ์ชัย จงสถาพงษ์พันธ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบริหารบัญชี-การเงิน บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายรายได้ปี 2568 ลงมาที่ 32,500 ล้านบาท เป้ายอดขายลงมาที่ 470,000 ตัน จากเป้ารายได้เดิมที่ตั้งไว้ 34,000 ล้านบาท เป้ายอดขายเดิม 500,000 ตัน จากผลกระทบเหตุการณ์ปะทะชายแพนไทย-กัมพูชาเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการซื้อวัตถุดิบ ทำให้ต้องปรับลดเป้ายอดขายลง แต่บริษัทฯไม่ได้รับผลกระทบเรื่องขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากส่วนใหญ่แรงงานของบริษัทเป็นคนไทย แม้บริษัทจะอยู่ใกล้กัมพูชา แต่ก็ไม่ได้ใช้แรงงานกัมพูชา
สำหรับผลดำเนินงานไตรมาส 3/2568 คาดว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ได้ตามเป้ายอดขายที่วางไว้ทั้ง QoQ และ YoY โดยช่วงที่เหลือของปีนี้หลายปัจจัยเริ่มคลี่คลาย ทั้งมีความชัดเจนภาษีสหรัฐฯของหลายประเทศ รวมถึงไทย ทำให้เป็นบวกต่อเศรษฐกิจโลก ถ้ามีการปรับตัวและรับมือไปกับภาษีที่เกิดขึ้น เศรษฐกิจก็น่าจะดีขึ้น ซึ่งเห็นได้จากตลาดเงิน และตลาดทุนขึ้นไปรอแล้ว
ส่วน NER ก็ได้หาแหล่งซัพลายวัตถุดิบไว้แล้วทั่วประเทศ โดยจะเพิ่มการซื้อจากอีสานเหนือ แม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ไม่มีสาระสำคัญ
ไตรมาส 2/2568 บริษัทฯมี EBITDA 775 ล้านาท เพิ่มขึ้น 10.21% จากไตรมาสแรก ส่วน 6 เดือนแรกปี 2568 มี EBITDA 1,600 ล้านบาท กำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 554 ล้านบาท คิดเป็น 7.30% ของยอดขาย ส่วน 6 เดือนแรกปี 2568 กำไรสุทธิ 1,163 ล้านบาท คิดเป็น 7.14% ของยอดขาย ส่วน ROA อยู่ที่ 12.18% ROE อยู่ที่ 27.38% D/E 1.21 เท่า
นายศักดิ์ชัย กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ผ่านมา ว่า สินทรัพย์เสียหายมีมูลค่าประมาณ 2-3 พันตัน ซึ่งก็ได้มีการทำคืนได้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว และคาดหวังว่าจะได้รับการเคลมประกันได้ไม่เกินไตรมาส 4/2568 สำหรับโรงงานยางแท่งแห่งที่ 3 ยังอยากจะสร้างอยู่เหมือนเดิม
“เราเสียใจกับอัคคีภัยที่เกิดขึ้น ตรงนี้ทำให้เราวางแผนที่จะสั่งซื้อรถดับเพลิงที่ฉีดโฟมมาใช้ในหน่วยงานเอง ครั้งล่าสุดประเมินว่าถ้าเรามีรถดับเพลิงฉีดโฟมก็คงจะไม่เกิดเหตุใหญ่โตแบบนี้”
อนึ่ง เมื่อ 20 ก.ค.2568 NER แจ้งเหตุการณ์เพลิงไหม้บริเวณโกดังคลังสินค้าสำเร็จรูปยางแท่งเฟส 1
น.ส.เกศนรี จองโชติสิริกลุ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาด/ควบคุมคุณภาพ NER เปิดเผยว่า สหรัฐฯเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทยที่ 19% ช่วยบรรเทาความเสี่ยงในการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดลงได้บ้าง แต่ยังต้องจับตาความสามารถในการแข่งขันของภาคส่งออกไทยที่ยังเผชิญกับแรงกดดันจากคู่แข่งที่เผชิญภาษีนำเข้าในอัตราที่แตกต่างกันไป
“ประเทศไทยส่งออกล้อยางไปสหรัฐฯมากสุด ซึ่งไทยส่งออกล้อยาง 6.5% ของยอดส่งออกของประเทศไทย ที่ไปสหรัฐฯ 50.7% ยอดที่ไทยส่งออกอยู่ที่ประมาณ 20% เม็กซิโก้ 11% แคนาดา 9% เวียดนาม และญี่ปุ่นส่งออกไป 8%… ไทยได้รับอัตราภาษีฯของสหรัฐฯที่ 19% น่าจะน้อยกว่าประเทศอื่น เมื่อเทียบกับเวียดนาม และอินโดนีเซียที่โดนไป 20%”
ภูมิอากาศมักจะมีผลต่อการเก็บเกี่ยวน้ำยาง หรือก้อนยางที่จะใช้ผลิตยางธรรมชาติให้กับล้อยางรถยนต์ ซึ่งปีนี้ปริมาณน้ำฝนน่าจะอยู่เหนือค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ปริมาณผลิตยางของไทย มีวันกรีดยางหรือได้น้ำยางที่สูงขึ้น
