AOTกำไรร่วง15%เหลือ 3,865 ลบ.Q3/68 ต่ำกว่าคาด ฉุดหุ้นติดลบ 3.75%

HoonSmart.com>>”ท่าอากาศยานไทย” (AOT) เปิดผลงานไตรมาส 3 สิ้นสุด 30 มิ.ย.68 กำไร 3,864.80 ล้านบาท ลดลง 15.30%  รายได้ลดลง โดยเฉพาะที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินร่วงลง 8% เหลือ 7,886.19 ล้านบาท สวนทางค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ฉุดกำไรรวม 9 เดือน ลดลง 4.35% เหลือ 14,262.37 ล้านบาท ยันวางแผนหาแหล่งรายได้อื่นเสริมความแข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคต นักวิเคราะห์ผิดหวังกำไรพลาดเป้า กดราคาหุ้นร่วง 3.75%ปิดที่ 38.50 บาท

บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2568 มีกำไรสุทธิ 3,864.80 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.27 บาท ลดลง 697.92 ล้านบาท คิดเป็น 15.30% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 4,562.72 ล้านบาทหรือ 0.32 บาทต่อหุ้น โดยมีรายได้จากการขายหรือการให้บริการ 15,343.31 ล้านบาท ลดลง 1,061.86 ล้านบาทหรือ- 6.47% จากการลดลงทั้งรายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน 4.78% มาที่ 7,457.12 ล้านบาท และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินลดลง -8.02% มาที่ 7,886.19 ล้านบาท โดยรายได้รวม 16,088.39 ล้านบาท ลดลง 3.61%  ส่วนค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 5.09% เป็น 10,735.05 ล้านบาท

ส่วนกำไรรวม 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 14,262.37 ล้านบาท หรือ 1 บาทต่อหุ้น ลดลง 647.98 ล้านบาท คิดเป็น 4.35% จากกำไรสุทธิ 14,910.35 ล้านบาทหรือ 1.04 บาทต่อหุ้นในช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีรายได้จากการขายหรือการให้บริการจำนวน 50,913.10 เพิ่มขึ้น 1.12% จากกิจการการบินเพิ่มขึ้น 10.22% มาที่ 25,645.27 ล้านบาท ในขณะที่รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินลดลง 6.69% มาที่ 25,267.83 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 2,409.12 ล้านบาท หรือ 8.14% แต่ต้นทุนการเงินลดลง 9.39%

นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย กล่าวถึง ปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ใน 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.2567-มิ.ย.2568)  มีจำนวนเที่ยวบินรวม 602,195 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.79%จากช่วงเดียวกันปีก่อน  แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 341,523 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 260,672 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวม 97.24 ล้านคน เพิ่มขึ้น  7.87%แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 59.48 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 37.76 ล้านคน

ล่าสุดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 10 อันดับแรกของท่าอากาศยานที่มีการเชื่อมต่อทางอากาศดีที่สุด (Airport Connectivity Ranking) ประจำปี 2567 โดยสภาสมาคมท่าอากาศยานระหว่างประเทศ ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักเดินทางที่มีต่อท่าอากาศยานของ AOT ทั้งในด้านความปลอดภัย การให้บริการ และความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ท่าอากาศยานของ AOT ได้รับความสนใจจากสายการบินในการขยายเครือข่ายเส้นทางการบินอย่างต่อเนื่อง โดยแผนตารางบินฤดูหนาว (Winter Schedule) ประจำปี 2568 (ต.ค. 2568 -มี.ค. 2569) ณ ท่าอากาศยานของ AOT มีสายการบินใหม่ 7 สายการบิน เข้ามาให้บริการในประเทศไทย อาทิ United Airlines, Centrum Air, Air France, Etihad Airways, T’way, Loong Air และ Scoot นอกจากนี้ ยังมีสายการบินที่เพิ่มเส้นทางการบินอีก 11 เส้นทาง ครอบคลุมสนามบินหลักและสนามบินภูมิภาค เช่น สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ให้บริการเส้นทาง ลอสแอนเจลิส – ทสภ. สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ให้บริการเส้นทาง ริยาด – ทดม. สายการบินไทยแอร์เอเชีย ให้บริการเส้นทาง ปูซาน – ทดม.,ดานัง – ทภก. โคลัมโบ – ทภก. สายการบิน Air France ให้บริการเส้นทาง ปารีส – ทภก. สายการบิน Hainan Airline ให้บริการเส้นทาง ไหโขว่ – ทภก., ไหโขว่ – ทชม. เป็นต้น

เพื่อรองรับการขยายตัวของเครือข่ายเส้นทางการบินดังกล่าว AOT ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการและมาตรการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการกระตุ้นตลาดด้านการบิน (Incentive Scheme) ให้แก่สายการบินที่เปิดให้บริการเส้นทางการบินใหม่มายังท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ของ AOT หรือเส้นทางการบินใหม่ของสายการบิน ซึ่งได้มีการขยายระยะเวลาโครงการจากเดิมออกไปอีก 3 ปี ตั้งแต่ 1 พ.ย.2568 โดยให้ส่วนลดด้านการบินในอัตรา  50% ตลอดระยะเวลาโครงการ

สำหรับโครงการ Marketing Fund ที่สนับสนุนงบส่งเสริมการตลาดในอัตรา 300 บาทต่อผู้โดยสารหนึ่งคน ซึ่งจะช่วยจูงใจสายการบินให้เปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศมายัง ทหญ.และ ทชร. อันเป็นการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจสู่ภูมิภาค รวมถึงกิจกรรม “FAM Trip” ที่นำผู้แทนสายการบินและบริษัทนำเที่ยวจากต่างประเทศมาสัมผัสและเยี่ยมชมการท่องเที่ยวในพื้นที่จริง เป็นการแนะนำศักยภาพของท่าอากาศยานและสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลาและเชียงราย เพื่อวางรากฐานสำหรับการขยายเส้นทางบินเชิงพาณิชย์ในอนาคต ด้วยเหตุนี้ AOT จึงได้เร่งดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยาน ทั้ง 6 แห่ง ให้สามารถรองรับผู้โดยสาร 240 ล้านคนต่อปีในปี 2575

ขณะเดียวกัน AOT ก็มีแผนหาแหล่งรายได้อื่นเพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non-Aeronautical Revenue) เช่น การเปิดให้นักลงทุนและผู้ประกอบการทั้งภายในประเทศและต่างประเทศมีโอกาสพัฒนาพื้นที่ศักยภาพรอบสนามบินทั้ง 6 แห่งเพื่อประกอบธุรกิจ เช่น โรงแรม โครงการ MRO โครงการ Private Jet Terminal โครงการ Logistics Hub Training Center ศูนย์ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้า โชว์รูมรถยนต์ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และโครงการ Attraction in Terminal เป็นต้น และยังมีการจัดเก็บค่าบริการระบบไฟฟ้า 400 Hz และระบบปรับอากาศ PC-AIR ที่อาคาร SAT-1 ทสภ. ที่สอดรับกับแนวโน้มการเติบโตของสายการบินที่เข้ามาใช้บริการที่ ทสภ.ที่เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพด้านแหล่งรายได้ที่มีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดการใช้พลังงาน การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดมลพิษทางอากาศและเสียงรบกวนจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขณะที่เครื่องบินเข้าจอดณ หลุมจอดอากาศยานประจำเครื่องบิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ AOT ตระหนักและให้ความสำคัญต่อการลดปัญหาที่จะเกิดกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน จะนำไปสู่ประสิทธิภาพด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาวขององค์กรไปจนถึงการเตรียมความพร้อมให้กับ ทสภ.ในการเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาคต่อไป

นางสาวปวีณากล่าวว่า จากภาพรวมผลดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ AOT ทั้งในด้านปริมาณเที่ยวบิน ผู้โดยสาร รายได้ และการขยายเครือข่ายเส้นทางบิน ทั้งนี้ AOT ยังคงเดินหน้าพัฒนาปรับปรุงการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อการให้บริการที่ดีแก่ผู้โดยสารและรองรับการเติบโตของการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เข้าสู่ประเทศไทยในอนาคต เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคที่พร้อมรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินโลก Aviation Hub อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

ด้านราคาหุ้น AOT  ปิดที่ 38.50 บาท ลดลง 1.50 บาทหรือ -3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 2,027.05  ล้านบาท สาเหตุหนึ่งของการปรับตัวลงเกิดจากนักวิเคราะห์ผิดหวังกำไรที่ออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ และราคาหุ้นลงตามภาวะตลาดโดยรวมที่ติดลบ 10 จุด นักวิเคราะห์หลายราย ยังคงแนะนำถือหุ้น AOT