HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 2.25 จุด หลังขึ้นไปมาก แต่เวลาต่อมาพลิกเป็นบวก 4.80 จุด ได้แรงดันจาก THAI ที่ยังมีการเทรดกันอย่างคึกคัก ภาพรวมตลาดแกว่งไซด์เวย์ โดยยังมีปัจจัยหนุนจาคาดหวังเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมก.ย.นี้
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 14 ส.ค. 2568 ณ เวลา 10.05 น.อยู่ที่ระดับ 1,275.18 จุด ลดลง 2.25 จุด หรือ -0.18% มูลค่าซื้อขาย 6,579.18 ล้านบาท
ล่าสุดเมื่อ 10.16 น.ดัชนี SET พลิกเป็นบวก 4.80 จุด มาที่ 1,282.23 จุด หรือ +0.38%
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมิน SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,270-1,290 จุด โดยปัจจัยหนุนหลักยังคงมาจากความคาดหวังเชิงบวกต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะกลับมาลดดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือน ก.ย. นี้ค่อนข้างแน่ 0.25% สู่ระดับ 4-4.25% หลังตัวเลขภาคแรงงานชะลอตัว ขณะที่เงินเฟ้อไม่ได้พุ่งขึ้นแรงอย่างน่ากังวล ล่าสุดตลาดเริ่มประเมินโอกาส 6% ที่เฟดอาจปรับลงดอกเบี้ยแรง 0.5% ในการประชุมรอบนี้
ด้านกนง.วานนี้มีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 1.5% ซึ่ง Inline กับ Consensus คาด แต่ Surprise ตลาดบางส่วน นอกจากนี้ตลาดยังคงประเมินโอกาสที่จะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในระยะถัดไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2568 – ปี 2569 คาดว่าโฟกัสตลาดในช่วงครึ่งเดือนหลังจะอยู่ที่การเมืองมากขึ้น โดยติดตามการพิจารณางบฯ 69 วาระ 2-3 วันที่ 13-15 ส.ค. รวมถึงล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายกวันที่ 29 ส.ค. เวลา 15.00 น. คาดว่าจะทำให้ดัชนีมีความผันผวนและ Upside จำกัดมากขึ้นในระยะนี้
ส่วนด้านผลประกอบการไตรมาส 2/2568 บริษัทจดทะเบียนเข้าช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศ โดยรวมเท่าที่ประกาศออกมาแล้วใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด ซึ่งช่วยลด Downside สำหรับ EPS ปี 2568 ปัจจุบันที่ราว 89 บาทได้ สำหรับ SET Index เรามองว่าการพักตัวตราบใดยังไม่หลุดแนวรับหลัก 1,240+- จุด ภาพระยะกลาง-ยาวยังคงเป็นบวกและมีโอกาสไต่ระดับขึ้นต่อทดสอบกรอบ 1,280-1,300 จุดเพื่อทะลุผ่านอีกครั้ง เรายังคงมุมมองว่าหุ้น Consumer Staple ซึ่ง Laggard ตลาดในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา เช่น การแพทย์ โรงไฟฟ้า ไฟแนนซ์ ค้าปลีก รับเหมาฯ เป็นต้น มีแนวโน้มปรับตัวได้แข็งกว่าดัชนี
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
THAI อยู่ที่ 17.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.70 บาท หรือ +10.56% มูลค่าซื้อขาย 1,113.11 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 168.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.30% มูลค่าซื้อขาย 463.27 ล้านบาท
PTT อยู่ที่ 32.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.77% มูลค่าซื้อขาย 313.66 ล้านบาท
AOT อยู่ที่ 39.25 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -1.88% มูลค่าซื้อขาย 297.24 ล้านบาท
BDMS อยู่ที่ 22.50 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ -1.75% มูลค่าซื้อขาย 266.20 ล้านบาท

