AWCโชว์ Q2/68 กำไร 1,404 ล้านบ. สินทรัพย์ใหญ่ 2 เท่าเทียบ IPO ปั๊มรายได้โตยาว

HoonSmart.com>>”แอสเสท เวิรด์ คอร์ป” (AWC) ชูความสำเร็จ Growth-Led Strategy ขยายสินทรัพย์ดีๆ รวม 212,616 ล้านบาท หนุนกำไรไตรมาส 2/68  โต 12.7% เป็น 1,404 ล้านบาท กําไรจากการดําเนินงาน  2,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% ธุรกิจใหม่เพิ่มรายได้ระยะยาว พอร์ตกระจายความเสี่ยง รักษาโครงสร้างการเงินแกร่ง  ไตรมาส 3 เปิดโครงการ Jurassic World: The Experience  ที่เอเชียทีค 

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 2/2568 มีกำไรสุทธิ 1,404.48 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.0439 บาท เพิ่มขึ้น 157.3  ล้านบาท หรือ 12.7%จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,247.18 ล้านบาทหรือ 0.039 บาทต่อหุ้น รวมครึ่งปีนี้กำไรทั้งสิ้น 3,373.81 ล้านบาท กำไรหุ้นละ0.1054 บาท เพิ่มขึ้นจำนวน 522.07 ล้านบาทหรือ 18.31% จากที่มีกำไรสุทธิ 2,851.74 ล้านบาทหรือ 0.0891 บาทต่อหุ้นช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้รวม 5,211 ล้านบาท เติบโต 7.7%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กําไรจากการดําเนินงาน (อิบิทดา) จำนวน  2,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% บริษัทฯมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการและกลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียล สัดส่วนเท่ากัน 50% สะท้อนความสำเร็จของกลยุทธ์ Growth-Led Strategy รับรู้รายได้ของทรัพย์สินใหม่ และการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอทั้งยังรักษาโครงสร้างการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.92 เท่า ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม

บริษัทมีรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งจากการรับรู้รายได้จากทรัพย์สินใหม่ เช่น โรงแรม มีเลีย พัทยาโฮเต็ล ประเทศไทย โรงแรม พัทยาแมริออท รีสอร์ต แอนด์สปาโรงแรม สวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา รวมถึงการเติบโตจากโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ท ระดับลักชัวรีโดยเฉพาะโรงแรมในเกาะสมุย และรายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่เติบโตสูงขึ้น นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลยังคงการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและมั่นคง โดยบริษัทมีการรับรู้กำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในไตรมาสนี้จำนวน 1,495 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามกำไรจากการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการอยู่ที่ 676 ล้านบาท ลดลง 17.8% โดยหลักเนื่องจากผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ส่งผลกระทบต่อยอดจองเข้าพักของโรงแรมในกลุ่มประชุมสัมมนา (MICE) และโรงแรมในกรุงเทพฯ

บริษัทยังเดินหน้าสร้างการเติบโตในระยะยาว ด้วยการเสริมพอร์ตโฟลิโอเติบโตก้าวกระโดดมากกว่า 2 เท่านับตั้งแต่ IPO รวมมูลค่าทรัพย์สิน
สิ้นไตรมาส  2/2568 เท่ากับ 212,616 ล้านบาท  และเพิ่มขึ้น  11.1%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผ่านการเติบโตทั้งแบบ Organic Growth
ด้วยการเร่งผลักดันทรัพย์สินที่อยู่ในช่วงดำเนินงานเริ่มต้น (Ramp Up) และช่วงปรับกลยุทธ์การตลาด (Repositioning) ให้เข้าสู่ระดับการดำเนินงานปกติ ควบคู่กับการเติบโตแบบ Inorganic Growth ด้วยการเร่งพัฒนาทรัพย์สินระหว่างการพัฒนา (Developing Asset) ให้เป็นทรัพย์สินดำเนินงาน(Operating Asset) ด้วยกำรเปิดตัวโรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปาโรงแรมแห่งใหม่แห่งที่สองในพัทยาในไตรมาสนี้ส่งผลให้บริษัทมีการเติบโตของจำนวนห้องพักสูงที่สุดในตลาดนับตั้งแต่ IPO

นอกจากนี้ในไตรมาสที่ 3 บริษัทฯพร้อมเปิดโครงการ Jurassic World: The Experience  สุดยอดประสบการณ์เสมือนจริงแบบอิมเมอร์ซีฟที่ยิ่งใหญ่ใหม่ล่าสุดของโลกและโซน “Hatch Dome”พื้นที่ใหม่ รวบรวมประสบการณ์ด้านการเรียนรู้ และความบันเทิงไว้ในที่เดียวในรูปแบบ Edutainment ที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์เดสติเนชั่น เสริมความแข็งแกร่งให้กรุงเทพฯ และประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลก จะช่วยสร้างรายได้ส่วนเพิ่มให้แก่บริษัททันทีในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อสร้างคุณค่าและผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น