HoonSmart.com>>”แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส”(ADVANC) หรือ AIS แกร่ง ไตรมาส 2/68 กำไร 10,982 ล้านบาท โต 28% รวม 6 เดือน เพิ่มขึ้น 26.64% เป็น 21,565 ล้านบาท ลูกค้าทั้งมือถือและเน็ตบ้านเพิ่มอย่างต่อเนื่อง หนุนครึ่งปีหลังไปต่อ ปรับเป้ารายได้บริการหลัก-EBITDA โต 4-6% เดินหน้าลงทุน 26,000-27,000 ล้านบาท เพิ่มคุณภาพบริการ แบรนด์แกร่ง ความเชื่อมั่นโครงข่าย รักษากำไรที่แข็งแกร่งยั่งยืนในระยะยาว บอร์ดแจกปันผลกลางปี 6.89 บาท ผลตอบแทนมากกว่า 2%
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC)หรือ AIS รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 2/2568 มีกำไรสุทธิ 10,981.89 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 3.69 บาท เพิ่มขึ้น 2404.63 ล้านบาท หรือเติบโต 28.03% จากข่วงเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 8,577.26 ล้านบาท หรือ 2.89 บาทต่อหุ้น รวม 6 เดือนแรกปีนี้ กำไรทั้งสิ้น 21,565.41 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 7.25 บาท เพิ่มขึ้นจำนวน 4,537.09 ล้านบาทหรือ ประมาณ 26.64%จากกำไรสุทธิ 17,028.32 ล้านบาทหรือ 5.73 บาทต่อหุ้นในช่วงเดียวกันปีก่อน
ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2568 ตอกย้ำจุดยืนผู้นำองค์กรเทคโนโลยีโทรคมนาคมอัจฉริยะ (Cognitive Tech-Co) ที่มุ่งเน้นรักษามาตรฐานคุณภาพบริการในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 56,044 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิโต สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจ และความพร้อมในการพัฒนาบริการและนวัตกรรมดิจิทัลอย่างไม่หยุดยั้ง แบรนด์ที่แข็งแกร่งจากพันธมิตรด้านคอนเทนต์ทั้งในและต่างประเทศ EPL และ Thai League
นอกจากนี้ยังมุ่งยกระดับศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลหลักอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงข่าย 5G ความเร็วสูง, บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และบริการ Cloud และ Data Center มาตรฐานสากล เพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งจากภาคประชาชนและภาคธุรกิจ สอดคล้องกับกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตเพื่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน
ส่วนธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีจำนวนผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้น 46 ล้านเลขหมาย โดยจำนวนผู้ใช้ 5G เพิ่มขึ้นเป็น 13.9 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านเลขหมายจากไตรมาสก่อน โดยหลังจากที่บริษัทฯได้รับใบอนุญาต คลื่นความถี่ 2100 MHz จาก กสทช. เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายอีกขั้น ทำให้เอไอเอสเป็นผู้ให้บริการที่มีคลื่นมากสุดเพื่อคนไทยทั่วประเทศ และมีโครงข่ายที่ครอบคลุมประชากรไทยกว่า 95% พร้อมรองรับการมอบประสบการณ์ความบันเทิงและกีฬาชั้นนำระดับโลกผ่านโครงข่ายคุณภาพให้ลูกค้า อาทิ การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และไทยลีกที่กำลังจะเริ่มต้นในฤดูกาลใหม่
ธุรกิจบรอดแบนด์ ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดเน็ตบ้าน ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 67,900 ราย รวมเป็น 5.14 ล้านรายในไตรมาสนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อคุณภาพการให้บริการที่สามารถรองรับการใช้งานยุคดิจิทัลด้วยบริการนวัตกรรมเน็ตบ้านสำหรับลูกค้าทุกครัวเรือนและภาคธุรกิจ ที่มาพร้อมกับทัพคอนเทนต์ความบันเทิงมากมายจากพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับโลก พร้อมขยายบริการใหม่ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์ อาทิ โซลูชันสำหรับผู้ประกอบการอีเวนต์ หรือแพ็กเกจคอนเทนต์เพื่อผู้ประกอบการผับบาร์ เป็นต้น ตอกย้ำบทบาทของผู้นำบริการเน็ตบ้านเพื่อลูกค้าทุกกลุ่มอย่างแท้จริง
สำหรับธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร มีรายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กรเพิ่มขึ้น 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งวันนี้มีความพร้อมในการยกระดับขีดความสามารถของธุรกิจไทยด้วยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล พร้อมทรานส์ฟอร์มธุรกิจด้วยเทคโนโลยี AI และ Cloud ที่ครบวงจร ผ่านการเปิดตัวบริการ “AIS Cloud powered by Oracle Cloud Infrastructure” ครั้งแรกในไทยกับเทคโนโลยี Hyperscale Cloud ซึ่งถือเป็นรายเดียวที่มีศูนย์ข้อมูลอยู่ภายในประเทศ ให้บริการโดยบริษัทไทย เพื่อร่วมขับเคลื่อนองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนไทยสู่การเปลี่ยนผ่านในยุคดิจิทัลด้วย AI ได้อย่างแท้จริง
” ADVANC ส่งมอบผลกำไรที่มั่นคง สอดคล้องกับการเติบโตของรายได้อย่างมีคุณภาพและกรบริหารต้นทุนอย่างรอบคอบ ส่งผลให้ไตรมาส 2/68 มี EBITDA อยู่ที่ 30,267 ล้านบาท เติบโต 7.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเติบโต 0.7%จากไตรมาสก่อน มีอัตรากำไร EBITDA อยู่ที่ 54% ทำให้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกมีแนวโน้มต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง มีการปรับคาดการณ์รายได้จากการบริการหลัก และปรับกำไร EBITDA เติบโตประมาณ 4-6% จากการกำรมุ่งเน้นความสามารถในการทำกำไร และยังมีมุมมองเชิงระมัดระวัง”
บริษัทฯยังคงลงทุนในระบบไอที การพัฒนาโครงข่ายให้ทันสมัย และการผสานบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้เป้นระบบเดียวกันภายในปี 2569 ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาผลประกอบการที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว พร้อมส่งมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ตั้งงบลงทุนระหว่าง 26,000-27,000 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร้งของโครงข่ายและใช้ในการควบรวมกิจการให้เสร็จสมบรูณ์
ด้านคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอยุมัติการจ่ายปันผลระหว่างกาลปีนี้ หุ้นละ 6.89 บาท ให้แกับผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 20 ส.ค. 2568 กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 19 ส.ค. 2568 คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 2.33% เทียบราคาหุ้นปิดที่ 296 บาท บวก 1 บาทหรือ+0.34% วันที่ 6 ส.ค.2568
