HoonSmart.com>>3 โบรกเกอร์เห็นพ้องหุ้นส.ค.แกว่งไซด์เวย์ ระวัง ! การเมืองกดดัน โดยเฉพาะคดีนายกฯแพทองธาร กนง. กลางเดือนยังไม่ชัวร์ จะคงหรือลดดอกเบี้ย เงินบาทส่ออ่อนค่า หวั่นเงินไหลออก มองแนวต้านสูงสุด 1,270 ส่วนด้านล่างสุด 1,130 จุด แนะนำ DELTA, HANA, KCE, STA, TU, PTTEP, SCGP, PR9, ADVANC, GULF, MAJOR, TTB “อัสสเดช” เผยบจ.มีรายได้ส่งออกไปสหรัฐแค่ 2% มองภาษี 19% เป็นข่าวดีตลาดหุ้น ศูนย์วิจัยกสิกรฯ เพิ่มเป้า GDP ปีนี้โต 1.5%จาก 1.4%
ตลาดหุ้นไทยเดือนก.ค.ดัชนี SET ปิดที่ 1,242.35 จุด เพิ่มขึ้น 152.79 จุด หรือ +14.02% จากเดือนมิ.ย.ปิดที่ 1,089.56 จุด ฝีมือนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 16,906.93 ล้านบาท สถาบันไทยซื้อด้วย 4,899.68 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนในประเทศขายมากถึง 19,906.93 ล้านบาทและบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1,135.07 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า หุ้นไทยเดือนส.ค.คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ ขึ้น/ลง หลังมีความชัดเจนสหรัฐฯเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 19% ทำให้เกิดการขายหุ้นล็อกกำไร ส่งผลให้เงินไหลออกและเงินบาทอ่อนค่า โดยขณะนี้เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน ดังนั้นจะต้องจับตาทิศทางค่าเงิน และต้องรอดูประธานาธิบดีสหรัฐ ”ทรัมป์”จะออกมาตรการเพิ่มอีกหรือเปล่า
ส่วนปัจจัยในประเทศเดือนส.ค.นี้มีหลายเรื่องที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะเรื่องการเมืองในคดีสว.ยื่นถอดถอนนายกฯแพทองธาร หากไม่ผ่านก็อาจจะต้องเลือกนายกฯคนใหม่ แต่คิดว่าไม่น่าจะถึงขั้นยุบสภา การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ของบริษัทจดทะเบียน
อย่างไรก็ดี นักลงทุนสามารถลงทุนหุ้นที่เน้นให้เงินปันผลสูง และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า อย่างกลุ่มส่งออก ไม่ว่าจะเป็นหุ้น DELTA, HANA, KCE, STA, TU ด้านกลยุทธ์คงแนะนำ”ขึ้นขายลงซื้อ” โดยให้กรอบดัชนีเดือนส.ค.มีแนวรับ 1,195-1,172 จุด แนวต้าน 1,250-1,270 จุด
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นไทยเดือนส.ค.คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ อิงขาลง เผชิญ Sell on fact จากความชัดเจนภาษีสหรัฐฯ และตลาดตอบรับปัจจัยบวกไปแล้ว จากนี้ไปภาษีสูงขึ้น ราคาสินค้าขึ้น เงินเฟ้อขึ้น ซึ่งเศรษฐกิจไทยมีโอกาสที่จะเติบโตแถว 1.5-2.0% มุมมองดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ ที่สหรัฐจะติดภาษีถึง 36% อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยเติบโตในระดับต่ำยังมีอยู่
“ช่วงที่เหลือของปี 2568 เงินบาทมีทิศทางอ่อนค่า ซึ่งจะกดดัน SET เพราะความเสี่ยงเศรษฐกิจเติบโตช้ายังอยู่ และจะมากังวลภาระภาษีสูงขึ้นอีก หลังชัดเจนภาษีสหรัฐ 19% จากก่อนหน้านี้การส่งออกดีขึ้น เพราะกังวลเรื่องภาษีสหรัฐฯ ทำให้เร่งส่งออกสินค้า เงินบาทแข็งค่า”นายเบญจพลกล่าว
ตลาดหุ้นเดือนส.ค.ให้แนวรับ 1,150-1,130 จุด แนวต้าน 1,240-1,250 จุด ปัจจัยการเมืองที่มีหลายเรื่องต้องติดตาม โดยเฉพาะเรื่องของนายกฯ และติดตามการประชุมกนง. คาดว่ารอบนี้จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้นจีงไม่แนะนำให้ไล่หุ้น เพราะหุ้นขึ้นมามากแล้ว แต่ยังลงทุนหุ้น Global plays ได้ แนะนำ PTTEP ราคาเป้าหมาย 155 บาท และ SCGP ราคาเป้าหมาย 21 บาท
น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า เดือนส.ค.หุ้นไทยคงจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ หลังตอบรับเรื่องภาษีสหรัฐฯไปแล้ว จากนี้ต้องติดตามเรื่องอื่น ทั้งการทบทวนการลงทุนของ MSCI (7 ส.ค.) ซึ่งคาดว่าจะมีการเพิ่มน้ำหนักลงทุน และการทบทวนของ FTSE ในเดือนส.ค.นี้ รวมถึงให้ติดตามการประชุมกนง.ในวันที่ 13 ส.ค.นี้ คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมทั้งติดตาม GDP ไตรมาส 2/2568 ของสภาพัฒน์ และการพิจารณางบประมาณปี 2569 ในวาระ 2-3
นอกจากนี้ ปัจจัยการเมืองมีหลายเรื่องต้องติดตาม โดยเฉพาะคดีของนายกฯ ส่วนนอกประเทศจะมีการประชุมที่แจ็กสัน โฮล ในวันที่ 21-23 ส.ค. ซึ่งจะต้องเกาะติดสัญญาณดอกเบี้ยจะเป็นอย่างไร โดยขณะนี้โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีแค่ 1 ครั้ง เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่ากดดันด้วย
ช่วงเดือนส.ค.นี้เล่นหุ้นเก็งงบฯ และเงินปันผล ช่วงนี้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างสามารถเล่นเก็งกำไรได้ เพราะจะมีการพิจารณางบประมาณ แนะให้เก็งงบฯดี มีปันผล หุ้นพื้นฐานดีมีโอกาสไปต่อ จึงแนะนำหุ้น PR9 ราคาเป้าหมาย 28.6 บาท งบฯไตรมาส 2/68 ดีจากลูกค้าตะวันออกกลางหนุน และเข้าสู่ฤดูกาลที่คนจะป่วยมากในช่วงหน้าฝน
หุ้น ADVANC ราคาเป้าหมาย 344 บาท ผลงานเติบโตต่อเนื่องจากได้ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก, หุ้น GULF ราคาเป้าหมาย 60 บาท ไตรมาส 2 จะมีกำไรพิเศษ และ Data Center ยังหนุนต่อ รวมถึงได้ Sentiment บวกจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง, หุ้น MAJOR ราคาเป้าหมาย 12.80 บาท ได้แรงหนุนจากหนังใหญ่เข้ามาหลายเรื่องในช่วงครึ่งปีหลัง, หุ้น TTB ราคาเป้าหมาย 2.04 บาท เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลดี
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า สหรัฐสรุปภาษีไทยที่ 19% มองว่าเป็นข่าวดีที่มีความชัดเจนอัตราภาษีออกมา แต่ยังต้องศึกษาเพิ่มเติมว่าบริษัทจดทะเบียน (บจ.) กลุ่มใดที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์หรือมีผลกระทบ จากข้อมูลเบื้องต้นผลกระทบเชิงลบต่อบจ.ที่มีการส่งออกโดยตรงไปยังสหรัฐฯ คิดเป็น 2% หรือต่ำกว่า 2% ของรายได้รวมทั้งหมด ซึ่งไม่ได้รุนแรง แต่ยังต้องติดตามปัจจัยอื่น ๆ ว่า บจ.มีการส่งออกผ่านประเทศอื่นหรือไม่ และไทยนำเข้าเพื่อส่งออกต่อไปอย่างไรเพื่อประเมินสถานการณ์ให้ครบถ้วน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาพอสมควร ทำให้เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วนจากความกังวลการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 โต 1.5% จาก 1.4% หลังอัตราภาษีลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากระดับ 36% มาอยู่ที่ 19% ใกล้เคียงกับภูมิภาคอาเซียน และดีกว่าเวียดนาม แต่จะต้องระวังภาษีสินค้าสวมสิทธิ์ พร้อมจับตา Section 232
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 2568 จาก 1.6% เป็น 1.9% และปี 2569 จาก 1.4% เป็น 1.6% และคาด กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายรอบการประชุม 13 ส.ค.นี้
