ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 2.7% ปิด 51.49 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ผิดหวังประชุมโอเปกยังไม่ได้ข้อสรุปการปรับลดกำลังผลิต ท่ามกลางรายงานสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
บริษัท ไทยออยล์ รายงานราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่อง หลังได้รับแรงกดดันจากการขายทำกำไรของนักลงทุน ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 51.49 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 1.40 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หรือ 2.7% และน้ำมันดิบเบรนท์ปิด 60.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 1.50 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หรือ 2.4% เนื่องจากผิดหวังกับการประชุมของกลุ่มโอเปกและรัสเซีย ในวันที่ 6 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา ที่ไร้ข้อสรุปที่ชัดเจนเรื่องการปรับลดกำลังการผลิต
ทั้งนี้ แม้ว่ากลุ่มโอเปกต่างเห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิต แต่ยังคงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้จนกว่าจะมีการหารือกับรัสเซีย โดยรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซียจะเดินทางมาประชุมกับกลุ่มโอเปกในวันนี้เพื่อหาข้อสรุป หลังเมื่อวานได้มีการหารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
นอกจากนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงต่อเนื่อง หลังผู้บริหารสูงสุดด้านการเงิน (CFO) ของบริษัท Huawei ถูกจับกุมที่เมืองแวนคูเวอร์ และจะถูกส่งไปยังสหรัฐฯ จากข้อกล่าวหาว่าละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯ มีต่ออิหร่าน ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อาจทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้บางส่วนในการประชุม G20
ทั้งนี้แม้จะได้รับปัจจัยจากสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA)ปรับลดลงกว่า 7.33 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ถึง 8 เท่า อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ได้กลับมาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปสุทธิครั้งแรกในรอบ 45ปี หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบประวัติการณ์ที่ 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
“ยังคงต้องจับตาข้อสรุปของการประชุมระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก หลังรัสเซียจะกลับมาให้ข้อสรุปในวันที่ 7 ธ.ค.61 ว่าจะปรับลดปริมาณการผลิตในระดับไหน โดยตลาดคาดการณ์ว่ากลุ่มผู้ผลิตมีแนวโน้มปรับลดปริมาณการผลิตลง 1.0 – 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมทั้งจับตาปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านในเดือน พ.ย. 61 มีแนวโน้มปรับลดลง แม้ว่าสหรัฐฯ จะประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินเดีย อิตาลี กรีซ และตุรกี สามารถนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านได้”บริษัท ไทยออยล์ ระบุ
รายงานข่าวว่านายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า โอเปกอาจประสบความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลง ถ้าไม่สามารถประนีประนอมกับรัสเซีย โดยมีการระบุว่า นายอัล-ฟาลีห์เสนอให้โอเปกปรับลดกำลังการผลิตเพียง 1 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งต่ำกว่าที่ซาอุดีอาระเบียระบุก่อนหน้านี้ว่า โอเปกควรลดกำลังการผลิตอย่างน้อย 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน
ขณะเดียวกันโอเปกต้องการให้รัสเซียให้ความร่วมมือปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันอย่างน้อย 250,000-300,000 บาร์เรล/วัน แต่รัสเซียยืนกรานว่าสามารถให้ความร่วมมือลดกำลังการผลิตได้เพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าว เนื่องจากรัสเซียจำเป็นต้องผลิตน้ำมันจำนวนมากในช่วงฤดูหนาว