HoonSmart.com>>ดัชนี SET ทะยานขึ้นแรง 0.85% ปิดที่ 1,244.14 จุด ดันหุ้นเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 14.19% บวก 154.58 จุด เอากลับคืนครึ่งทาง จาก 6 เดือนแรกดิ่งหนักถึง -310.65 จุด -22.19% หากภาษีสหรัฐฯเคาะที่ 18% บล.กสิกรไทยคาดหุ้นมีโอกาสไปต่อ ลุ้นทดสอบ 1,300 จุด ส่วนบล.หยวนต้ามองบวกได้เล็กน้อย ขึ้นมาชน 1,250 จุดเจอ Sell on fact แต่หากภาษีสูงกว่า 20% เตือนถอยลงไปแถว 1,200 จุด ยืนเป้าดัชนี SET ปี 68 ไว้ที่ 1,275 จุด ทะลุ 1,300 ไม่ง่าย

วันที่ 30 ก.ค.68 ตลาดหุ้นวิ่งแรงต่อ ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,244.14 จุด เพิ่มขึ้น 10.46 จุด หรือ +0.85% มูลค่าซื้อขาย 54,670.81 ล้านบาท ฝีมือสถาบันไทยซื้อสุทธิ 2,161.25 ล้านบาท ส่วนต่างชาติขาย 264.86 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ขาย 629.88 บาท และนักลงทุนไทยทิ้งต่อ 1,266.51 ล้านบาท
แรงซื้อไหลบ่าเข้าตลาดในช่วงบ่าย หลังรมว.คลังประกาศวันนี้ตอบกลับข้อเสนอเรื่องภาษีสหรัฐฯครั้งสุดท้าย ท่ามกลางกระแสข่าวไทยจะได้ข้อสรุปที่อัตรา 18% นักลงทุนแห่ลุยหุ้นส่งออก นิคมอุตสาหกรรม ผสมผสานหุ้นปิโตรเคมี พลังงาน และโรงพยาบาล ผลักดันตลาดปรับขึ้นมากกว่าภูมิภาค
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นบ่ายนี้ปรับตัวขึ้นดีกว่าช่วงเช้า วอลุ่มเทรดกว่า 5 หมื่นล้านบาท รับแรงเก็งกำไรจากหุ้นที่เกี่ยวข้องกับภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ทั้ง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, นิคมอุตสาหกรรม, ปิโตรเคมี ซึ่งคาดว่าไทยน่าจะได้อัตราภาษีนำเข้า 20% +/- โดยหุ้นมีโอกาสที่จะรีบาวด์กลับไปอยู่ช่วงวันที่ 2 เม.ย.2568
“หากไทยได้อัตราภาษีนำเข้าสินค้าไปสหรัฐฯที่ 18% หุ้นก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปต่อได้ และมีลุ้นทดสอบ 1,300 จุด”
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.) ตลาดคงจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1,245 จุด หากขึ้นมาชนก็อาจจะพักฐานบ้าง ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,230 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นช่วงบ่ายนี้มีแรงเก็งกำไรเข้ามาที่กลุ่มนิคมฯ และอิเล็กทรอนิกส์ ลุ้นผลเจรจาการค้าสหรัฐฯ-ไทย ซึ่งบ่ายนี้มีกระแสข่าวว่าไทยจะได้รับอัตราภาษี 18% หากได้จริงดัชนีฯก็จะบวกได้เล็กน้อย เมื่อขึ้นมาชน 1,250 จุดก็อาจจะมี Sell on fact เพราะหุ้นขึ้นมารับความคาดหวังเชิงบวกเรื่องภาษีนี้พอควรแล้ว แต่ถ้าได้อัตราภาษีที่สูงกว่า 20% มีโอกาสถอยลงไปแถว 1,200 จุด แต่ถ้าได้ที่ 20% ดัชนีฯก็อาจจะย่อลงเล็กน้อย ซึ่งเป้าดัชนี SET ปี 2568 ยังคงให้ไว้ที่ 1,275 จุด ดังนั้นจะให้ดัชนีฯวิ่งทะลุ 1,300 จุด คงจะไม่ง่าย
บล.กรุงศรี ระบุว่า เริ่มเห็นแรงเก็งกำไรหุ้นนิคมฯ หากอิงท่าทีทรัมป์ ล่าสุดที่มองระดับภาษีกรณีฐาน (Baseline) ราว 15-20% ทรัมป์ ให้ข้อมูลผ่าน X ว่าจะพิจารณาภาษีที่ดีให้กับไทย หลังหยุดยิงกับกัมพูชา จึงประเมินเริ่มมีโอกาสเห็น Upside มากขึ้นต่อกรณี Base Case ที่ไทยจะได้ภาษีการค้าระดับ 25% (จาก 36%) และ Effective Tariff Rate จะอยู่ระดับที่ 21% แข่งขันกับชาติคู่แข่งในอาเซียนได้
ทางด้านนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงประมาณการเศรษฐกิจ (GDP) ในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัว 2.2% (กรอบ 1.7-2.7%) ดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาคาดไว้ที่ 2.1% ภายใต้สถานการณ์นโยบายภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ และผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศของประเทศคู่ค้าของไทย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการผลิตภาคอุตสาหกรรม และการส่งออกที่ขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้จาก 2.3% เพิ่มเป็น 5.5% ประกอบกับการบริโภคภายในประเทศ ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
“คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวดีขึ้น 2.2% ซึ่งเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับที่ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)ปรับคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 2% จากที่เคยมองไว้ 1.8% โดยคลังคาดว่าส่งออกเติบโต 5.5% ดีขึ้นกว่าเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 2.3% ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 14.6 พันล้านดอลลาร์ และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.4% ลดลงจากประมาณการครั้งก่อนซึ่งอยู่ที่ 0.8% “นายพรชัยระบุ
