HoonSmart.com>>วีซ่า เปิด 4 เมกะเทรนด์ที่กำลังกำหนดโฉมหน้าระบบการชำระเงินแห่งอนาคต ตั้งแต่การปราบปรามการฉ้อโกงด้วย AI ไปจนถึงการโยกย้ายทุนข้ามพรมแดนแบบเรียลไทม์
วีซ่า ผู้ให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก เปิดเผยว่า ภูมิทัศน์ของระบบการชำระเงินกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ภายใต้แรงขับเคลื่อนจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยพบว่า 4 เทรนด์สำคัญที่จะมีบทบาทในการกำหนดรูปแบบการชำระเงินแห่งอนาคต
เทรนด์ที่ 1: พลัง AI ต้านภัยการฉ้อโกง
Visa ได้ใช้งบลงทุนกว่า 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ ล่าสุดได้เปิดตัว 3 โซลูชั่นใหม่ Visa Protect—โซลูชัน AI ที่มุ่งตรวจจับการฉ้อโกงแบบเรียลไทม์ในธุรกรรมระหว่างบัญชี (Account-to-Account หรือ A2A) และธุรกรรมที่ไม่ใช้บัตร (Card-not-Present หรือ CNP) ทั้งภายในและภายนอกเครือข่ายของวีซ่า โดยมีอัลกอริธึม Deep Learning ที่สามารถวิเคราะห์รูปแบบความเสี่ยงซับซ้อนอย่างแม่นยำ
ช่วยให้สถาบันการเงินและองค์กรพันธมิตรสามารถตรวจจับและป้องกันความเสี่ยงได้แบบเรียลไทม์ พร้อมมอบประสบการณ์ที่ปลอดภัยและราบรื่นยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค
เทรนด์ที่ 2: ตัวตนแบบดิจิทัล เพิ่มความสะดวกให้การยืนยันตัวตน
ด้วยโซลูชัน Click to Pay และ Visa Payment Passkey ที่ช่วยลดการพึ่งพารหัสผ่าน PIN แบบเดิม และยังช่วยยกระดับประสบการณ์การชำระเงินให้ดียิ่งขึ้น โดย Click to Pay จะช่วยลดขั้นตอนยุ่งยากในการชำระเงินเมื่อลูกค้าชอปปิงออนไลน์ เสริมความปลอดภัยด้วยไบโอเมตริกซ์ เช่น ลายนิ้วมือและใบหน้า ป้องกันข้อมูลส่วนตัวไม่ให้ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ทั้งยังรองรับนโยบาย Data Privacy ที่เข้มงวดขึ้นทั่วโลกซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้บริโภคและภาคธุรกิจ
เทรนด์ที่ 3: ธุรกรรมข้ามพรมแดนที่รวดเร็วขึ้นและตอบโจทย์มากกว่าเดิม
จากการทำธุรกรรมระหว่างธุรกิจ (B2B) สู่การโอนเงินระหว่างบุคคล (P2P) หรือระหว่างธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ขอบเขตของธุรกรรมข้ามพรมแดนกำลังขยายตัว ด้วยแรงหนุนจากเศรษฐกิจดิจิทัลแบบไร้พรมแดน วีซ่าได้นำสนอ Visa Direct โซลูชั่นที่สามารถเชื่อมต่อกับปลายทางการชำระเงินกว่า 7 พันล้านจุดทั่วโลก ไม่ว่าจะผ่านบัตร บัญชีธนาคาร หรือวอลเล็ตดิจิทัล เพื่อให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนเป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
เทรนด์ที่ 4: การชำระเงินแบบเรียลไทม์เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์ (Real-Time Payments หรือ RTP) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก และคาดว่าจะมีมูลค่ารวมสูงถึง 58 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571 ซึ่งเป็นหลักฐานชัดเจนว่า “เวลา” คือปัจจัยสำคัญทางเศรษฐกิจ Visa ได้ออกโซลูชั่น Visa Protect เวอร์ชันใหม่ สำหรับระบบการชำระเงินระหว่างบัญชี (A2A) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกงในเครือข่าย RTP พร้อมกับระบุพฤติกรรมที่อาจเป็นการฉ้อโกงได้อย่างแม่นยำ<span;> ที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมฉ้อโกงแบบทันเวลา พร้อมดันการทำงานร่วมกัน (Interoperability) ระหว่างระบบต่างๆ ให้ไร้รอยต่อ
วีซ่า ระบุว่า ในอนาคต เทรนด์เหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวิธีการชำระเงินของทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ให้เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ปลอดภัย และครอบคลุมยิ่งขึ้น สำหรับทุกคน ทุกที่ ทั่วโลก
