HoonSmart.com>>หุ้น IRPC ขึ้นเด่นนำกลุ่มปิโตรเคมี ได้อานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันพุ่ง และ IMF เพิ่มคาดการณ์ GDP โลก โดยจีนได้รับการปรับขึ้นมากสุดจาก 4% เป็น 4.8%
หุ้นกลุ่มปิโตรเคมีขยับขึ้นยกแผง นำโดยหุ้น IRPC ระหว่างวันขึ้นไปสูงสุดแตะ 1.08 บาท และปิดที่ 1.03 บาท บวก 0.09 บาทหรือ+9.57%
นายปรินทร์ นิกรกิตติโกศล นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้น IRPC ขึ้นแรงเช้านี้นำกลุ่มปิโตรเคมีที่ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่า Sector อื่น ได้ผลดีจากราคาน้ำมันปรับขึ้นแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา และทาง IMF ก็มีการเพิ่มคาดการณ์ GDP โลก โดยเฉพาะปรับส่วนของจีนขึ้นมาก ทำให้หุ้นที่เชื่อมโยงกับจีนต่างปรับตัวขึ้น
IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 2568 ของกลุ่มประเทศเกิดใหม่และกำลังพัฒนาเป็น 4.1% จากเดิม 3.7% โดยจีนได้รับการปรับขึ้นมากที่สุดจาก 4% เป็น 4.8% สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาดในช่วงครึ่งปีแรก ประกอบกับการลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ
ราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ที่ 69.21 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.50 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 3.75% เมื่อ 29 ก.ค.
ด้านบทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะ”ซื้อเก็งกำไร”หุ้น IRPC คาดไตรมาส 2/2568 จะขาดทุนสุทธิที่ 2.4 พันล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น QoQ และ YoY เทียบกับไตรมาส 1/2568 แม้ Market GIM จะปรับตัวขึ้นจาก Spread น้ำมันสาเร็จรูปและน้ำมันหล่อลื่น ทั้งนี้ภาพรวมผลประกอบการอ่อนแอลง QoQ จากการปรับฐานของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทำให้คาดบันทึกขาดทุนสต็อกน้ำมันรวม NRV และ Hedging สูง 2.4 พันล้านบาท
แนวโน้มไตรมาส 3/2568 ผลการดำเนินงานปกติประคองตัว QoQ และมีโอกาสยังอยู่ระดับติดลบ เพราะปัจจัยบวกตามฤดูกาลของธุรกิจปิโตรเลียมจะถูกชดเชยด้วยอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่อ่อนแอจากภาวะอุปทานล้นตลาด
หากไตรมาส 2/25 เป็นไปตามคาด ผลประกอบการครึ่งแรกปี 2568 จะขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท ทำให้ประมาณการปี 2568-2569 ที่คาดขาดทุนสุทธิ -3.9 พันล้านบาท และ -474 ล้านบาท ตามลำดับ เริ่มมี Downside เนื่องจากช่วงที่เหลือของปีผลประกอบการยังมีความท้าทายในการสร้างกำไรจากการดำเนินงาน(อัตรากำไรรวมไตรมาส 2/2568 คาดทำได้ 8.4 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ต้นทุนค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 10.2 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล)
ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PBV ที่ 0.3 เท่าถือว่าไม่แพง Downside จำกัด ราคาเหมาะสม 1.00 บาท เชิงกลยุทธ์มองว่ายังไม่ต้องรีบเข้าลงทุนเนื่องจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยเฉพาะ PP ยังถูกกดดันจากภาวะอุปทานส่วนเกินต้นทุน–ค่าใช้จ่ายรวมอยู่ระดับสูง ทำให้การสร้างกำไรจากการดำเนินงานหลักยังท้าทาย และคาดเงินปันผลไม่จูงใจ(คาดประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2568 วันที่ 6 ส.ค.)