HoonSmart.com>> กระทรวงพาณิชย์ เผยส่งออกไทยเดือนมิ.ย. ขยายตัว 15.5% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 18% ส่วนครึ่งปีแรกเติบโตเกินคาด แรงหนุนจากเร่งนำเข้าสินค้าก่อนมาตรการภาษีสหรัฐฯ มีผล 1 ส.ค.นี้ แนวโน้มเดือนก.ค.คาดเงินเฟ้อชะลอตัว มองทั้งปีเข้าเป้าขยายตัว 2-3%

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ แถลงการส่งออกของไทยในเดือนมิถุนายน 2568 มีมูลค่า 28,649.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (938,533 ล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ที่ร้อยละ 15.5 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 15.6 การชะลอการใช้มาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกา ทำให้ผู้นำเข้าในสหรัฐฯ เร่งนำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้นเพื่อปิดความเสี่ยงด้านราคาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเติบโตได้ดี ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัล ขณะที่สินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะผลไม้สดและแช่แข็งฟื้นตัวกลับมาได้ดีในเดือนนี้ เช่นเดียวกับ มันสำปะหลัง น้ำมันปาล์ม น้ำตาลทราย ไก่แปรรูป และอาหารสัตว์เลี้ยง ต่างขยายตัวในเดือนนี้ ทั้งนี้ การส่งออกครึ่งแรกของปี 2568 ขยายตัวที่ร้อยละ 15.0 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 14.2
มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนมิถุนายน 2568 การส่งออก มีมูลค่า 28,649.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 15.5 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 27,588.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 13.1 ดุลการค้า เกินดุล 1,061.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาพรวมการส่งออกครึ่งแรกของปี 2568 การส่งออก มีมูลค่า 166,851.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 15.0 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 166,914.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 11.6 ดุลการค้า ขาดดุล 62.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนมิถุนายน 2568 การส่งออก มีมูลค่า 938,533 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.1 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 914,880 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.0 ดุลการค้า เกินดุล 23,654 ล้านบาท ภาพรวมการส่งออกครึ่งแรกของปี 2568 การส่งออก มีมูลค่า 5,578,959 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.6 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 5,651,241 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.6 ดุลการค้า ขาดดุล 72,282 ล้านบาท

แนวโน้มการส่งออกครึ่งหลังของปี 2568 การดำเนินมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ ส่งผลต่อการค้าไทยและโลกอย่างมีนัยสำคัญ ผลของการเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ก่อนที่ภาษีต่างตอบแทนจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. 68 เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดต่อทิศทางการค้าระหว่างประเทศในอนาคตของไทย โดยไทยได้ยื่นข้อเสนอฉบับใหม่ที่เปิดตลาดมากขึ้นให้กับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ซึ่งได้รับการตอบรับในทิศทางที่ดี คาดว่าไทยจะได้รับอัตราภาษีที่เหมาะสม และยังสามารถแข่งขันกับประเทศผู้ส่งออกรายอื่นในภูมิภาคได้ในระยะยาวการสร้างความสมดุลทางการค้ากับสหรัฐฯ ถือว่าจะเป็นโอกาสให้ไทยเร่งปรับปรุงโครงสร้างการส่งออกไปสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต สร้างห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศเพื่อรองรับการกระจายความเสี่ยงการผลิตและลงทุน และยกระดับสภาพแวดล้อมทางการค้าของประเทศให้แข่งขันได้ในระดับโลกเพิ่มขึ้น
“การส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มชะลอตัวลงแน่นอน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากเงินบาทที่แข็งค่า แต่อย่างไรก็ดี เชื่อว่า ภาพรวมการส่งออกของไทยทั้งปีนี้ จะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะขยายตัวได้ 2-3% ขณะที่เดือนก.ค. เชื่อว่าส่งออกจะชะลอตัว คงโตได้ไม่ถึง 2 หลักแล้ว ”
ทั้งนี้ หากจะทำให้การส่งออกของไทย เป็นไปตามเป้าหมายการเติบโตที่ตั้งไว้ 2-3% นั้น ในช่วง 6 เดือนที่เหลือ จะต้องมีมูลค่าการส่งออกไม่ต่ำกว่าเดือนละ 23,300 – 23,800 ล้านดอลลาร์
ในส่วนของการบรรเทาผลกระทบ ภาครัฐได้เตรียมความพร้อมด้วยมาตรการสนับสนุนทั้งภาคธุรกิจและเกษตรกรรม สำหรับปัจจัยอื่น ๆ ที่คาดว่าจะส่งผลต่อการส่งออกในครึ่งปีหลัง อาทิ ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ผลไม้ที่กำลังออกสู่ตลาด สงครามในตะวันออกกลาง การชะลอการลงทุนเพื่อรอดูท่าทีการเจรจา การปรับตัวของผู้ส่งออกในการปรับเปลี่ยนแหล่งนำเข้าวัตถุดิบให้สอดคล้องกับเงื่อนไขของการลดภาษีของสหรัฐฯ สถานการณ์เหล่านี้เป็นประเด็นที่กระทรวงพาณิชย์ยังคงต้องติดตามและหามาตรการรับมือ เพื่อแก้ปัญหา และหาแนวทางเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสมต่อไป
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า เผย กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกไทยเดือน มิ.ย. เติบโต 15.5% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดโต 18.3% YoY

———————————————————————————————————————————————————–

