โดย..สาธิต บวรสันติสุทธิ์, CFP นักวางแผนการเงิน #คอลัมน์ความจริงความคิด
เรื่องการโอนสิทธิเด็ดขาดทางกฎหมาย ก็คือ ยกสิทธิให้เขาแล้ว จะคืนหรือไม่ ก็เป็นสิทธิของผู้รับโอน หากผู้โอนสิทธิเกิดเปลี่ยนใจขอสิทธิคืน ผู้รับโอนสิทธิก็ไม่คืน เราจะทำยังไงดี
วิธีหนึ่งที่ผู้โอนสิทธิหลายคนคิดว่าน่าจะทำได้ คือ การเวนคืนกรมธรรม์ (Policy Surrender) คือ การยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิตก่อนครบกำหนดสัญญา หากเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ไม่ได้มีการโอนสิทธิ ผลก็คือ ผู้เอาประกันจะได้รับเงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ (Cash Surrender Value) ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
แต่หากเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ผู้เอาประกันได้ “โอนสิทธิเด็ดขาด” ให้ “ผู้รับโอน” แล้ว ผู้เอาประกันจะสามารถเวนคืนกรมธรรม์ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่า ผู้โอนได้โอนสิทธิการเวนคืนกรมธรรม์ และ สิทธิในการได้รับเงินมูลค่าเวนคืนให้ผู้รับโอนหรือไม่ ซึ่งสามารถดูได้จากหนังสือโอนสิทธิที่ทำไว้ว่าครอบคลุมสิทธิอะไรบ้าง
โดยทั่วไปหากมีการโอนสิทธิเด็ดขาดไปแล้ว เท่ากับโอนสิทธิทุกอย่าง ดังนั้นเมื่อมีการยกเลิกหรือเวนคืนกรมธรรม์ในภายหลัง มูลค่าเวนคืนจะเป็นของผู้รับสิทธิ (ผู้ที่ได้รับการโอน) ไม่ใช่ผู้เอาประกันเดิม
เหตุผลเพราะเมื่อโอนสิทธิเด็ดขาดแล้ว ผู้เอาประกัน (เดิม) หมดสิทธิในกรมธรรม์ทั้งหมด ผู้รับสิทธิ (ใหม่) จะเป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการต่าง ๆ เช่น ขอเวนคืนกรมธรรม์ ขอรับเงินผลประโยชน์ กู้เงินจากมูลค่าในกรมธรรม์ เปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ (ถ้าเงื่อนไขไม่ห้ามไว้)
ดังนั้น หากมีการเวนคืน หลังจากโอนสิทธิเด็ดขาด เงินเวนคืนเป็นของผู้รับสิทธิเด็ดขาด ไม่ใช่ของผู้เอาประกันเดิม
ตัวอย่าง
นาย สมชาย (พ่อ) เป็นผู้เอาประกัน และจ่ายเบี้ยประกันชีวิตมาตลอด ต่อมา นายสมชาย โอนสิทธิเด็ดขาด ของกรมธรรม์ประกันชีวิตให้ลูกสาวชื่อ นางสาวสวย (ลูกสาว) มีการลงทะเบียนโอนสิทธิไว้กับบริษัทประกันอย่างถูกต้อง
อีกไม่กี่ปีต่อมา นายสมชายต้องการเงิน และพยายามยื่นขอ เวนคืนกรมธรรม์ บริษัทประกันปฏิเสธ เพราะสิทธิทั้งหมดถูกโอนให้ นางสาวสวย แล้ว นายสมชายฟ้องบริษัทประกันและลูกสาว โดยอ้างว่าเบี้ยประกันทั้งหมดตนเป็นคนจ่าย และสิทธิในเงินควรเป็นของตน
คำพิพากษาศาล :
ศาลวินิจฉัยว่า เมื่อมีการโอนสิทธิเด็ดขาดให้ลูกสาวแล้ว ผู้โอน (นายสมชาย) ไม่มีสิทธิใด ๆ ในกรมธรรม์อีก ดังนั้น สิทธิในการเวนคืนและรับเงินเวนคืนเป็นของนางสาวสวยผู้รับสิทธิเด็ดขาด เท่านั้น แม้ผู้โอนจะเป็นผู้จ่ายเบี้ยเองทั้งหมดก็ตาม
ข้อสรุปจากคดีนี้ การโอนสิทธิเด็ดขาด เปลี่ยนเจ้าของกรมธรรม์โดยสมบูรณ์ มูลค่าเวนคืนเป็นของผู้รับสิทธิเด็ดขาด ผู้เอาประกัน (ผู้โอนสิทธิ) ไม่มีสิทธิอ้างว่าเป็นผู้ชำระเบี้ยเพื่อเรียกเงินคืนภายหลัง
การโอนสิทธิต้องได้รับความยินยอมจากผู้รับประโยชน์หรือไม่
ธรรมดากรมธรรม์ประกันชีวิตจะระบุบุคคลอื่นนอกเหนือจากผู้โอน (ผู้เอาประกัน) เป็นผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันชีวิต หากผู้โอนยังมิได้ส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวให้แก่ผู้รับประโยชน์และผู้รับประโยชน์มิได้บอกกล่าวเป็นหนังสือมายังบริษัทฯ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 891 ก่อนหรือขณะทำบันทึกข้อตกลงการโอนสิทธิเรียกร้อง การโอนสิทธิก็ยังสามารถทำได้
ดังนั้น หากผู้รับประโยชน์ต้องการปกป้องสิทธิประโยชน์ของตนเองก็ควรนำกรมธรรม์และทำหนังสือแจ้งบริษัทประกันว่าตัวเองขอรับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ฉบับนั้น ก็จะทำให้กรมธรรม์ฉบับนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์ได้
ดังนั้น ก่อนจะโอนสิทธิเด็ดขาดให้ใครก็ตาม คิดให้ดีก่อนนะ ให้แล้ว ทวงคืนไม่ได้ ถ้าเค้าไม่ยอมคืน
อ่านบทความอื่นๆ
คอลัมน์ความจริงความคิด : “เรื่องน่าคิด กรมธรรม์ที่โอนสิทธิเด็ดขาด” ตอน 1
———————————————————————————————————————————————————–
