ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงเกือบ 800 จุด นักลงทุนวิตกเศรษฐกิจถดถอย สับสนวันเริ่มต้นเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นเล็กน้อย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 4 ธันวาคม 2561 ที่ 25,027.07 จุด ลดลง 799.36 จุด หรือ 3.10% ท่ามกลางความกังวลต่อว่าปรากฎการณ์ในตลาดพันธบัตรส่งสัญญานเศรษฐกิจชะลอตัวเมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรเข้าสู่ภาวะพลิกกลับ (inversion) ขณะเดียวกันนักลงทุนยังวิตกต่อความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน แม้ตกลงที่จะระงับข้อพิพาทชั่วคราว และสับสนต่อวันเริ่มต้นการเจรจาหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และที่ปรึกษาเศรษฐกิจลาร์รี่ คุดโลว์กล่าว่าว่าจะเริ่มขึ้นวันที่ 1 มกราคม 2562 แต่ทำเนียบข่าวออกแถลงการณ์แก้ไขว่าเริ่มขึ้นวันที่ 1 ธันวาคม 2561
เมื่อวันจันทร์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 ปีสูงกว่า พันธบัตรอายุ 5 ปี ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นพลิกกลับมาสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว สิ่งที่จะตามมาคือการถดถอยของเศรษฐกิจ ซึ่งแม้ว่าจะเกิดขึ้นตามมาในหลายปีหลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรส่งสัญญาน และจะไม่ชัดเจนจนกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี กลับมาสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปี
เจฟฟรีย์ กุนด์ลัค ซีอีโอ ของ ดับเบิ้ลไลน์ แคปปิตอล กล่าวว่ากับรอยเตอร์สว่า การพลิกกลับของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรนี้ส่งสัญญาน ว่าเศรษฐกิจจะอ่อนตัวลง
ประธานาธิบดีทรัมป์ยังทวีตหลายข้อความเกี่ยวกับการค้ากับจีน โดยข้อความท่อนหนึ่งว่า “ผมและประธานาธิบดีสี่ จิ้นผิงต้องการให้ข้อตกลงเกิดขึ้น และมีความเป็นไปได้ แต่หากไม่เกิดขึ้น จำไว้ว่าผมเป็นคนเก็บภาษี เมื่อมีใครมากอบโกยความมั่งคั่งของชาติ ผมจะให้เขาจ่ายค่าตอบแทนสำหรับสิทธิพิเศษนี้”
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ผกผันนี้ส่งผลต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นเจพีมอร์แกนลดลง 4.4% หุ้นซิตี้กรุ๊ปลดลง 4.5% หุ้นแบงก์ออฟอเมริกาลดลง 5.4% หุ้นมอร์แกน สแตนเล่ย์ลดลง5.0% หุ้นแคปปิตอลวันลดลง 6.1% หุ้นซิติเซ่นไฟแนนซ์เชียลลดลง 5.7% หุ้นซันทรัสต์ลดลง 5.8% หุ้นรีเจียนไฟแนนซ์เชี่ยลลดลง 6.2%
หุ้นโบอิ้งลดลง 4.86% หุ้นแคทเธอพิลลาร์ลดลง 6.90%
หุ้นแอปเปิลลดลง 4.40% หลังเอชเอสบีซีปรับลดน้ำหนักการลงทุนจากซื้อเป็นถือ
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,700.06 จุด ลดลง 90.31 จุด,-3.24%%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,158.43 จุด ลดลง 283.09 จุด, -3.80%
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันพุธที่ 5 ธันวาคม 2561 เพื่อไว้อาลัยแก่นายจอร์จ เอช. ดับเบิ้ลยู. บุช ประธานาธิบดีคนที่ 41 ที่ถึงแก่อสัญกรรมในวันที่ 30 พฤศจิกายน
ทางด้านตลาดยุโรปปิดลบด้วยแรงขายในหุ้นกลุ่มยานยนต์ซึ่งอ่อนไหวต่อสงครามการค้า เพราะนักลงทุนยังวิตกว่าสหรัฐและจีนจะแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าได้หรือไม่ จากความสับสนวันเริ่มต้นการเจรจาและตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินยโรและเงินปอนด์หลังจากนักกฎหมายแนะนำศาลสูงสหภาพยุโรปว่า อังกฤษสามารถถอนตัวได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากองค์กรใด
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,022.76 จุด ลดลง 39.65 จุด,-0.56%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 358.43 จุด ลดลง 2.75 จุด,-0.76%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,012.66 จุด ลดลง 42.32 จุด,-0.82%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,335.32 จุด ลดลง 130.14 จุด, -1.14%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 30 เซนต์ปิดที่ 53.25 ดอลลาร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ ปิดที่ 62.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์