HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง 436.36 จุด กังวลเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นหลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ส่วน S&P500 ลบ 24.80 จุด และ Nasdaq บวก 37.47 จุด หุ้น Nvidia ราคาพุ่งหลังสหรัฐไฟเขียวขายชิปให้จีนได้ ส่วนตลาดยุโรปปิดลบรอความคืบหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันปรับตัวลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ปิดที่ 44,023.29 จุด ลดลง 436.36 จุด หรือ -0.98% จากความกังวลเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นหลังการรายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิถุนายน รวมทั้งผลการดำเนินงานของภาคธนาคารที่หลากหลาย แต่ดัชนี Nasdaq ปรับขึ้นด้วยแรงหนุนจากหุ้น Nvidia
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,243.76 จุด ลดลง 24.80 จุด,-0.40%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,677.80 จุด เพิ่มขึ้น 37.47 จุด, + 0.18%
หุ้น Nvidia ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 4% หลังมีแนวโน้มที่จะได้รับไฟเขียวให้ทำการค้ากับจีนจากรัฐบาลทรัมป์ โดยบริษัทกล่าวว่าหวังที่จะกลับมาส่งมอบ GPU H20 ไปยังจีน ในเร็วๆ นี้
ข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม แม้ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI )ทั่วไปจะสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ โดยเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือนและเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปีสอดคล้องกับผลสำรวจของดาวโจนส์ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย และเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี สอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้
ตัวเลขเงินเฟ้อทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทรัมป์กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่าสหรัฐฯ จะจัดเก็บภาษี 30% สำหรับสินค้าจากสหภาพยุโรปและเม็กซิโก ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป
แมทธิว ไรอัน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาดของบริษัทบริการทางการเงินระดับโลก Ebury กล่าวว่า รายงานเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐฯ แทบจะยืนยันได้ว่าภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์มีผลในการผลักดันให้ราคาผู้บริโภคสูงขึ้นในเดือนมิถุนายน
แม้เงินเฟ้อพื้นฐานคลาดเคลื่อนเล็กน้อย แต่ตัวชี้วัดเงินเฟ้อทั้งเงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพื้นฐานออกมาในระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ความกังวลอย่างมากสำหรับเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)คือสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านั้นรออยู่ข้างหน้า เพราะไม่เพียงแต่จะมีช่วงเวลาที่การขึ้นภาษีศุลกากรจะส่งผลให้ราคาปรับขึ้น แต่การขึ้นภาษีศุลกากรเพิ่มเติมในวันที่ 1 สิงหาคมก็เกือบจะส่งสัญญาณถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มเติมอย่างแน่นอน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นกว่า 6 จุดเป็นเกือบ 4.5% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี เพิ่มขึ้น 5 จุดเป็นมากกว่า 5% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เนื่องจากนักลงทุนลดโอกาสของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดทั้งในเดือนนี้และเดือนกันยายน
ขณะเดียวกัน ธนาคารขนาดใหญ่ได้เริ่มต้นฤดูกาลประกาศผลประกอบการอย่างไม่เป็นทางการเมื่อเช้าวันอังคาร ซึ่งรายงานจากบริษัทการเงินรายใหญ่หลายรายไม่สร้างความพอใจให้กับนักลงทุนได้ ราคาหุ้น JPMorgan Chase และ Wells Fargo ร่วงลง ขณะที่ Citi ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากผลประกอบการออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
Wells Fargo มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ปรับลดประมาณการรายได้ดอกเบี้ยสุทธิส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงกว่า 5% หุ้น JPMorgan Chase ลดลงเล็กน้อย แม้ธนาคารรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้จากการซื้อขายและวาณิชธนกิจที่แข็งแกร่ง ส่วน BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ ลดลงเกือบ 6% จากรายได้ประจำไตรมาสที่ต่ำกว่าคาด
Citi สวนทางกับกลุ่มเพิ่มขึ้นกว่า 3% หลังจากที่ธนาคารรายงานผลการดำเนินงานดีกว่าประมาณการในไตรมาสที่สอง
ตลาดหวังว่าผลประกอบการไตรมาสที่สองจะช่วยหนุนตลาดหุ้นที่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก FactSet คาดการณ์ว่าอัตรากำไรของบริษัทในดัชนี S&P 500 จะเติบโต 4.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดของดัชนีนับตั้งแต่ไตรมาสที่สี่ของปี 2023
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากการปรับลงของหุ้นกลุ่มการเงินและการเฮลธ์แคร์ ขณะที่นักลงทุนรอข่าวเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป พร้อมกับประเมินข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐฯ
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 544.95 จุด ลดลง 2.04 จุด, -0.37%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,938.32 จุด ลดลง 59.74 จุด, -0.66%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,766.21 จุด ลดลง 41.96 จุด, -0.54%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,060.29 จุด ลดลง 100.35 จุด, -0.42%
เมื่อวันจันทร์ (14 ก.ค.) ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าต่อต้านข้อตกลงการค้า และเตือนถึงมาตรการตอบโต้หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่าเขาเปิดรับการเจรจา และเสริมว่าเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปจะเดินทางเยือนสหรัฐฯ เพื่อเจรจาการค้า
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ZEW ของเยอรมนี ระบุว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนกรกฎาคม แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าความหวังจะหายไปหากไม่มีข้อตกลงการค้าระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ
ในสหรัฐฯ ธนาคารขนาดใหญ่ต่างเริ่มต้นประกาศผลประกอบการ โดยนักลงทุนต่างประเมินแนวโน้มและความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับภาษีศุลกากรอย่างใกล้ชิด
ในยูโรโซน ดัชนีธนาคารลดลง 1.1% โดย Commerzbank ของเยอรมนี Banco BPM ของอิตาลี และ Societe Generale ของฝรั่งเศส ต่างร่วงลงมากกว่า 2%
หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ก็ตกลงเช่นกัน โดย Novo Nordisk บริษัทยาเดนมาร์กร่วงลง 2.3%
Ericsson ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมสวีเดนรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แต่ราคาหุ้น กลับลดลง 7.7% หลังจากที่บริษัทเตือนว่าภาษีศุลกากรจะฉุดการเติบโตของกำไร
ASML ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์อุปกรณ์ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุด เพิ่มขึ้น 2.7% ก่อนรายงานผลการดำเนินงานในวันพุธ
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 66.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 68.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
