HoonSmart.com>>จีแคป คาดราคาทองขาขึ้น หลัง “ทรัมป์” จุดกระแสสงครามการค้ารอบใหม่ ด้วยมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรป-เม็กซิโก 30% มีผล 1 ส.ค.นี้ รวมถึงการขึ้นภาษี 35% กับแคนาดาและเตรียมขยายผลกับอีกกว่า 23 ประเทศ
น.ส.อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า GOLD เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระลอกใหม่ โดยทรัมป์ได้ประกาศจัดเก็บภาษีนำเข้า 30% กับสินค้าจากสหภาพยุโรปและเม็กซิโก ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ หลังจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์เพิ่งประกาศขึ้นภาษี 35% กับสินค้าจากแคนาดา และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายอัตราภาษี 15-20% กับประเทศคู่ค้าอื่นๆ โดยรวมแล้วมีมากกว่า 23 ประเทศที่ได้รับจดหมายแจ้งขึ้นภาษีภายในสัปดาห์เดียว
ความเคลื่อนไหวเชิงนโยบายของทรัมป์สะท้อนสัญญาณการกลับมาใช้นโยบายการค้าที่มีลักษณะกีดกันมากขึ้น ส่งผลให้ภาวะความเสี่ยงในตลาดสูงขึ้นและกระตุ้นให้นักลงทุนหันกลับมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ในสัปดาห์นี้ ตลาดยังจับตาตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนของสหรัฐฯ (CPI) ซึ่งมีกำหนดประกาศวันที่ 15 สิงหาคม โดยตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขจะเร่งตัวขึ้นแตะระดับ 2.6% จาก 2.4% หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาดการณ์ อาจลดโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะอันใกล้ และส่งผลกดดันราคาทองคำในช่วงสั้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเฝ้าติดตามถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่เฟดก่อนเข้าสู่ช่วง “Blackout Period” วันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งเฟดจะงดให้ความเห็นสาธารณะก่อนการประชุม FOMC
GCAP GOLD มองว่า หากราคาทองคำสามารถเบรกกรอบ sideway ได้สำเร็จ จะเกิดการเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยนักลงทุนที่ถือสถานะซื้อสามารถทยอยขายทำกำไรได้เมื่อราคาขึ้นถึงแนวต้านที่ระดับ $3,400–$3,430 (ประมาณ 51,800–52,000 บาท)
ขณะเดียวกัน การย่อตัวช่วงสั้นอาจเกิดขึ้นบริเวณระดับ $3,335–$3,305 (ประมาณ 51,100–50,800 บาท) ซึ่งนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะสามารถใช้จังหวะดังกล่าวในการสะสมเพิ่ม แต่หากราคาหลุดต่ำกว่า $3,300 อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการอ่อนแรงในแนวโน้มขาขึ้น
