“หุ้นโตเกียว”เช้านี้ลบ – “เอเชีย” บวก วิตกภาษีทรัมป์

HoonSmart.com>>”ตลาดหุ้นโตเกียว” เช้านี้ปรับตัวลง ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ วิตกมาตรการภาษีศุลกากรทรัมป์ กระทบเศรษฐกิจทั่วโลก “ตลาดหุ้นเอเชีย” ส่วนใหญ่บวก

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวลง ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องในสองช่วงการซื้อขายก่อนหน้า ต่อเนื่องจากสัญญาณเชิงลบเป็นส่วนใหญ่จากวอลล์สตรีทในวันศุกร์ ด้วยความวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

ในตลาด Prime Market กลุ่มที่นำการปรับตัวลงคือ กลุ่มขนส่งทางอากาศ กลุ่มธนาคาร และกลุ่มขนส่งทางบก

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี (JGB) เพิ่มขึ้น 5.5 จุด แตะที่ 1.554% เมื่อเวลา 11.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากแตะระดับสูงสุดชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมก่อนหน้านี้ในการซื้อขาย

คำสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของญี่ปุ่นลดลง 0.6% ในเดือนพฤษภาคมจากเดือนก่อนหน้าเมื่อปรับปัจจัยฤดูกาล ตามข้อมูลที่สำนักงานคณะรัฐมนตรีของประเทศเผยแพร่ ซึ่งดีกว่าการหดตัว 1.5% ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ในการสำรวจของรอยเตอร์

เมื่อเทียบเป็นรายปี คำสั่งซื้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 4.4% สูงกว่า 3.4% ที่คาดการณ์ไว้ ตามข้อมูลจาก LSEG

ขณะเดียวกัน มูลค่าคำสั่งซื้อเครื่องจักรรวมที่ได้รับจากผู้ผลิต 280 รายที่ดำเนินงานในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนพฤษภาคมจากเดือนก่อนหน้า เมื่อปรับปัจจัยแล้ว ตามข้อมูลจากรัฐบาล

ณ เวลา 10.03 น. ตามเวลาประเทศไทย

ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 39,469.72 จุด ลดลง 99.96 จุด, -0.25%

ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกมีทั้งปรับตัวขึ้นและปรับลง จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสหภาพยุโรปและเม็กซิโก 30% ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนกังวลสงครามภาษีของสหรัฐฯ แม้ว่าการลดลงจะจำกัด เพราะหวังว่าเป็นเพียงการขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็ตาม

สหภาพยุโรปกล่าวว่าจะขยายเวลาระงับมาตรการตอบโต้ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ออกไปจนถึงต้นเดือนสิงหาคม และยังคงกดดันเพื่อหาข้อยุติโดยการเจรจา แม้ว่ารัฐมนตรีคลังของเยอรมนีเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดหากมีการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวเกิดขึ้น

นักลงทุนยังจับตาแรงกดดันต่อประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เจอโรม พาวเวลล์ ที่ส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มไม่เร่งลดอัตราดอกเบี้ย แต่ทรัมป์กลับกำลังกดดันทางการเมืองให้กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจังมากขึ้น

เควิน แฮสเซ็ตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาว เตือนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ทรัมป์อาจมีเหตุผลในการปลดพาวเวลล์ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสำนักงานใหญ่เฟดในกรุงวอชิงตันสูงเกินงบประมาณ

ทรัมป์กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะเป็นเรื่องดีหากพาวเวลล์ลาออก

นักลงทุนยังย่อยข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาค ขณะที่รอการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐและภูมิภาคในสัปดาห์นี้ โดยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ประจำเดือนมิถุนายนจะประกาศในวันอังคาร นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจำนวนมากจากจีน โดยเริ่มตั้งแต่การซื้อขายเดือนมิถุนายนในวันจันทร์ ตามมาด้วยยอดขายปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในวันถัดไป

เช้าวันนี้สิงคโปร์รายงานว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่สองสิเติบโต 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งตัวขึ้นจาก 3.9% ในไตรมาสแรก และสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 3.5% ที่รอยเตอร์สคาดการณ์ไว้

เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส GDP ของสิงคโปร์เติบโตขึ้น 1.4% จากการหดตัว 0.5% ในไตรมาสที่แล้ว

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,530.71 จุด เพิ่มขึ้น 20.53 จุด, +0.58%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 24,181.98 จุด เพิ่มขึ้น 42.41 จุด, +0.18%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 3,183.62จุด เพิ่มขึ้น 7.85 จุด, +0.25%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 22,593.26 จุด ลดลง 157.77 จุด , -0.69%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0. 07 ดอลลาร์หรือ 0.1% ซื้อขายที่ 68.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 0.08 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ซื้อขายที่ 70.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–