บล.เอเซียพลัสคาดหุ้นสัปดาห์นี้ ปรับตัวขึ้นต่อ แนวรับแข็งแรงอยู่ที่ 1,620 จุด ต่างชาติขายน้อยลงเดือนธ.ค. สถาบันในประเทศได้เงิน LTF/RMF แรงกดดันลดลงกรณีสหรัฐขึ้นดอกเบี้ย แนะตรีมการลงทุนกำลังซื้อในประเทศ BJC ราคาน้ำมันลดลงส่งผลบวกต่อหุ้น DCC-SCC และ TASCO
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เอเซียพลัสคาดแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ ยังจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เชื่อว่าระดับพี/อี 15 เท่าหรือเทียบเท่าดัชนีหุ้นบริเวณ 1,620 จุดน่าจะเป็นแนวรับที่แข็งแรง แรงขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติในช่วงเดือนธันวาคมน่าจะบางลง เนื่องจากเข้าใกล้เทศกาลปีใหม่ ขณะที่สถาบันในประเทศก็น่าจะมีเงินไหลเข้าจากการซื้อ LTF/RMF ส่วนพัฒนาการของปัจจัยทางการเมืองกำหนดการเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.2562 เป็นรูปธรรมมากขึ้นตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ยังอยู่ใน Theme หลักคือ Domestic Play โดยเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุนเฉพาะตัว เริ่มจาก BJC มูลค่าพื้นฐานที่ 61 บาท ได้อานิสงส์เชิงบวกจากการที่ภาครัฐอนุญาตให้ผู้ใช้บัตรสวัสดิการฯ สามารถจับจ่ายผ่าน Modern Tradeได้ และผลการดำเนินงานยังคาดหวังการฟื้นตัวได้ในระยะถัดไป จากการปรับปรุงประสิทธิภาพภายใน รวมทั้งมีการหาช่องทางการจำหน่ายใหม่ๆ ต่อยอดธุรกิจ
นอกจากนี้บล.เอเซียพลัสยังมีการแนะนำหุ้น DCC ให้มูลค่าเหมาะสม 2.90 บาท ด้วยโครงสร้างต้นทุนที่มาจากพลังงาน (ก๊าซ+น้ำมัน) ประมาณ 26% จึงอยู่ในฐานะที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลง อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่จ่ายเงินปันผลทุกไตรมาส ให้อัตราผลตอบแทน 5.6% ต่อปี ส่วนหุ้นอื่นที่อยู่ในกระแสบวกจากราคาน้ำมันลดลงเช่นกัน ได้แก่ SCC และ TASCO ก็น่าสนใจ
“สัปดาห์ที่ผ่านมา แรงกดดันจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นลดลงไประดับหนึ่ง หลังประธานเฟดมีมุมมองอัตราดอกเบี้ยเข้าใกล้จุดที่เหมาะสม ทำให้ผลตอบแทนการลงทุนในหุ้นทั้งไทยและต่างประเทศเป็นบวก 0.80% และ 3.59% ตามลำดับ ดึงให้ผลตอบแทนของพอร์ตรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.21% การจัดพอร์ตการลงทุนให้คงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทย 35% และหุ้นต่างประเทศ 25%”บล.เอเซียพลัสระบุ
สำหรับตราสารหนี้ เชื่อว่าแรงกดดันจากดอกเบี้ยขาขึ้นที่เบาลง น่าจะส่งผลทำให้ความเสี่ยงต่อการปรับลดลงของราคามีน้อยลง อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเน้นไปที่ตราสารที่เป็น Investment Grade และอายุไม่เกิน 2 ปี โดยคงน้ำหนักการลงทุนไว้ที่ 15% และ Money Market อีก 15%