บล.ดาโอเพิ่มน้ำหนักหุ้นแบงก์ สินเชื่อพ.ค.เริ่มโต เชียร์ซื้อ KTB

HoonSmart.com>>บล.ดาโอเพิ่มน้ำหนักลงทุนกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังจากสินเชื่อเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.2%เทียบกับเดือนเม.ย. (MoM) จากสินเชื่อภาครัฐเป็นหลัก ส่วนเช่าซื้อยังคงหดตัวลงตามภาวะอุตสาหกรรม ภาพรวมคงเป้าสินเชื่อทั้งปี 68 โต 1.3% ส่วน NPL อยู่ที่ 3.18% เชียร์ธนาคารกรุงไทย (KTB) เป้า 25 บาท เป็น Top pick

บล.ดาโอเพิ่มน้ำหนักลงทุนกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังจากสินเชื่อเดือนพ.ค.2568 เพิ่มขึ้น 0.2%เทียบกับเดือนเม.ย.(MoM) จากสินเชื่อภาครัฐเป็นหลัก

ภาพรวมสินเชื่อเดือนเดือนพ.ค.ทั้ง 7 ธนาคารที่ cover อยู่ที่ 10.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.2% MoM จากสินเชื่อภาครัฐเป็นหลัก ขณะที่รายย่อยทรงตัว ส่วนสินเชื่อรายใหญ่ลดลง โดยธนาคารที่มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากที่สุด MoM คือ KTB เพิ่มขึ้น +2.3% จากสินเชื่อภาครัฐที่เพิ่มขึ้นมากที่สุด และมีสินเชื่อรายใหญ่เพิ่มขึ้นด้วย รองลงมาเป็น KKP เพิ่มขึ้น +0.7% MoM จากสินเชื่อรายใหญ่และ SME แต่สินเชื่อเช่าซื้อยังคงหดตัวลงตามภาวะอุตสาหกรรม

ขณะที่ธนาคารที่มีสินเชื่อลดลงมากที่สุดคือ BBL -1.1% MoMจากสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อต่างประเทศที่ลดลง รองลงมาเป็น TTB ที่ลดลง -0.4% MoM จากทุกสินเชื่อทั้งสินเชื่อรายใหญ่, รายย่อยและ SME แต่สินเชื่อบ้านแลกเงินยังเพิ่มขึ้นได้ดี

ส่วนภาพรวมของเงินฝากเดือน พ.ค. 2568 อยู่ที่ 12.6 ล้านล้านบาท ลดลง -0.1% MoM โดยธนาคารที่เงินฝากลดลงมากที่สุดคือ KTB ลดลง -2.8% MoM จากเงินฝากของภาครัฐเป็นหลัก รองลงมาเป็น KKP ลดลง -0.7% MoM จากเงินฝากประจำที่ลดลง ส่วนเงินฝากที่
เพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ SCB เพิ่มขึ้น +1.6% MoM จาก CASA ที่เพิ่มขึ้น (ที่มา:ข้อมูลบริษัท)

“ดาโอมองเป็นบวกกลุ่มธนาคารต่อสินเชื่อในเดือนพ.ค. ที่กลับมาฟื้นตัวได้ที่ +0.2% MoM จากเดือน เม.ย. ที่ลดลง0.4% MoM”

การเพิ่มขึ้นของสินเชื่อส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อภาครัฐที่เพิ่มขึ้นตามปีงบประมาณ ขณะที่สินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะ
สินเชื่อเช่าซื้อยังลดลงตามยอดขายรถยนต์ที่มีการปรับตัวลดลง และจากกำลังซื้อชะลอตัว รวมถึงหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ทำให้กลุ่มธนาคารมีการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ส่วนสินเชื่อรายใหญ่มีการปรับตัวลดลง ขณะที่เราคาดว่าสินเชื่อรายใหญ่จะมี Momentum ที่เพิ่มขึ้นได้ในช่วงครึ่งปีหลังตามฤดูกาล ด้านสินเชื่อภาครัฐเรายังเชื่อว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อได้จากเม็ดเงินเพิ่มเติมจากภาครัฐอีก 1.57 แสนล้านบาท ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ทั้งนี้บล.ดาโอยังคงประมาณการสินเชื่อรวมทั้งปี 2568 ของกลุ่มไว้ที่ 1.3% YoY (5 เดือนอยู่ที่ -0.8% YTD) ด้าน NPL คาดว่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นไม่น่ากังวลมากนัก เพราะแต่ละธนาคารมีการตั้งสำรองฯจำนวนมากมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาและมีการทยอยขายหนี้เสียออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยคาด NPL ในปี 2568 จะอยู่ที่ 3.18% จาก 3.05% ในปี 2567

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2568ที่ผ่านมา บริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับแนวโน้มอุตสาหกรรมแบงก์ไทย เป็น ‘ปรับตัวด้อยลง’ (Deteriorating) จากเดิมที่ทรงตัว’ (neutral) เหตุเศรษฐกิจจ่ออ่อนแอ ลงจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์และความสามารถในการทำกำไรของธนาคารในปี 2568

ทั้งนี้ฟิทช์ยังคงมองว่าสภาพแวดล้อมในการดำเนินงาน (Operating Environment– OE) ของธนาคารไทยในระยะยาวตลอดวัฏจักรธุรกิจยังคงมีเสถียรภาพ

บล.ดาโอมองเป็น sentiment เชิงลบเล็กน้อยต่อกลุ่มธนาคารจาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ปรับแนวโน้มอุตสาหกรรมธนาคารลงเป็น Deteriorating เพราะการเติบโตของเศรษฐกิจและความสามารถในการทำกำไรจะชะลอตัวลง ซึ่งเป็นไปตามมุมมองของเราอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ดี ฟิทช์ เรทติ้งส์ ยังคงเรทติ้งของกลุ่มธนาคารไว้ที่เดิม คาดว่าผลกระทบจะน้อยกว่ารอบก่อน (วันที่ 1 พ.ค. 2567) ที่Moody’s Ratings ได้ปรับลดมุมมอง (outlook) ความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินไทย (BBL, KBANK, KTB, SCB, TTB) ลงเป็นลบ (negative) จากคงที่  (stable) ขณะที่ราคาหุ่นช่วง 1 พ.ค. 2567 ของกลุ่มธนาคารไม่ได้มีการปรับตัวลดลงเลย (+1-3%) ทั้งนี้กลุ่มธนาคารเรายังให้น้ำหนักเป็น “มากกว่า
ตลาด” เลือก KTB (ซื้อ/เป้า 25 บาท) เป็น Top pick