HoonSmart.com>> บล.ดาโอ คาดดัชนี SET ปรับตัวลดลง จับตาสถานการณ์ตะวันออกกลาง หลังสหรัฐฯ โจมตีแหล่งนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่าน ติดตามทางออกการเมืองไทยหลังภูมิใจไทยถอนตัว ความขัดแย้งกัมพูชา วางแนวรับดัชนี 1,056 จุด ส่วนกรอบสัปดาห์ 1,034-1,080 จุด แนะหุ้นราคาลงลึก CPALL, BH , BDMS , MTC หุ้นปันผลสูง SCB, PTT
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ ประเมินตลาดหุ้นไทยยังมีความเสี่ยงจากทั้งสงครามตะวันออกกลาง และการเมืองในประเทศ ที่มีความเสี่ยงจากคลิปของนายกฯ ซึ่งวันนี้ยังตอบได้ยาก ว่าจะจบแบใด ตลาดน่าจะผันผวน ทิศทางอยู่ที่ว่า ตัวแปรใหญ่ โดยเฉพาะการเมือง จะพลิกไปในทางใด คาดกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ไว้ที่ 1,034-1,080 จุด (กรอบแนวรับ 1,056 , 1034, 1000 จุด)
สถานการณ์ตะวันออกกลาง สหรัฐฯ ได้โจมตีแหล่งนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่าน (ฟอร์โดว์, นาทานซ์ และอิสฟาฮาน) ไปเมื่อคืนวันเสาร์(21 มิ.ย.) จากนี้ ต้องดูว่า อิหร่าน และพันธมิตรจะมีการตอบโต้อย่างไร ซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้นที่จะผันผวนได้อย่างมาก รวมไปถึง ราคาน้ำมันดิบ และราคาทองคำ ในวันจันทร์(23)
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศมาตรการชั่วคราวเพื่อรองรับความผันผวน โดยปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor (30% เหลือ 15%) และ Dynamic Price Band มาตรการนี้ จะชะลอการขายในการเปิดตลาดเช้าวันจันทร์ แต่หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น มาตรการนี้ ก็ช่วยแค่ลงช้าลงเท่านั้น
การเมืองไทย กลายมาเป็นตัวแปรใหญ่สุดของตลาด สัปดาห์นี้ ยังอยู่ในการเคลียร์ปัญหาคลิปเสียงหลุด ด้านพรรคร่วมฯ ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ (ยกเว้น”ภูมิใจไทย”) ฉากต่อไป ต้องดูในเรื่องการประท้วงของผู้เรียกร้องทางการเมือง และเสียงของบรรดา สส. ว่าจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อเปิดสมัยประชุม (3 ก.ค.) รวมไปถึงการปรับ ครม. หลังมีการเปลี่ยนแปลงในพรรคร่วมฯ
“เรามองว่า นักลงทุนยังอาจมีความไม่แน่ใจว่า จะมีผลต่อสถานะของนายกฯ ในอนาคตหรือไม่ เมื่อใดความกังวลลดลง หรือปัญหาถูกแก้ ตลาดหุ้นก็จะค่อยๆฟื้น โอกาสที่เรื่องนี้จะจบลงที่ นายกฯ ลาออก ยังมีมากกว่าทางอื่น นักลงทุนจึงควรอยู่ในจุดที่ควรพร้อมซื้อและขาย”บล.ดาโอ แนะนำ
ด้านความขัดแย้งแนวชายแดนกัมพูชาและไทย ต้องดูท่าทีรัฐบาล เพราะอาจหันมากดดันฝั่งกัมพูชา อีกครั้ง ซึ่งจะไม่ดีต่อหุ้นที่มีรายได้ในประเทศกัมพูชา ล่าสุด กัมพูชา ระงับการนำเข้าน้ำมันจากไทยแล้ว
ขณะที่ OPEC+ เตรียมการเพิ่มกำลังผลิตรองรับการเปลี่ยนแปลงของ demand ซึ่งจะเป็นผลให้ ราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวขึ้นได้ยาก ไม่ดีนักต่อหุ้นน้ำมัน (Brent ปิดวันศุกร์ ไปที่ 77.01 เหรียญ/บาร์เรล
คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในกรรมการของ Fed กล่าวว่า Fed สามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้เร็วที่สุดในเดือนหน้า โดยย้ำมุมมองของเขาว่า ผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่เกิดจากมาตรการภาษีมีแนวโน้มที่จะอยู่เพียงชั่วคราว “เราสามารถทำได้เร็วที่สุดในการประชุม 17 ก.ค.นี้” ถ้า Fed ลดดอกเบี้ยได้เร็วกว่าที่เคยคาด ก.ย.(17 ก.ย.) จะเป็นบวกต่อตลาด โดยเฉพาะราคาทองคำ
FTSE มีการ rebalance ไปแล้วทั้ง SET Index Series และ Global Equity Index Series เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมี Volume ค่อนข้างสูง เหมือนที่ MSCI ทำไปปลายเดือนก่อน สัปดาห์นี้ ความผันผวนจากหุ้นที่ถูก rebalance จะลดลง
สัปดาห์นี้ติดตามตัวเลข GDP 1q (t) ของสหรัฐฯ ครั้งก่อน -0.2% qoq และตัวเลข PCE ของสหรัฐฯ เดือนก่อน 2.1% yoy
“ตลาดหุ้นไทย น่าจะตกใจกับข่าวที่สหรัฐฯโจมตีอิหร่าน ดัชนีฯ อาจเปิดลบได้ในวันจันทร์(23 มิ.ย.) ขณะที่ข่าวลบของการเมืองยังไม่จางลง กลยุทธ์ลงทุน ภาพรวมยังเป็นชะลอการลงทุน หรือเข้าลงทุนแบบฉาบฉวย เพื่อเก็งกำไรช่วงสั้น ในหุ้นที่ลงมามาก ผสมหุ้นแกร่ง เพื่อถือยาว”
บล.ดาโอมองแนวรับสำคัญของดัชนีฯ ตอนนี้ 1056 จุด (low เดิม) และใช้ FWD P/E 13.0-13.4 เท่า ได้ตำแหน่งต่อไปที่ 1,034 และ 1,000 จุด
ส่วน list ของหุ้น ที่รอเก็บเมื่อตลาดหยุดลง Deep Discount แนะ CPALL, BH , BDMS , MTC และหุ้น High Dividend Yield :SCB, PTT
หุ้นแนะนำตามสัญญาณเทคนิค : DELTA, MCOT
———————————————————————————————————————————————————–

