HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวโน้ม SET มีโอกาสปรับลดลงตามดัชนีภูมิภาคเช้านี้ลดลงราว 0.8% -1.0% วางแนวรับดัชนี 1,050 จุด แนวต้าน 1,080 จุด รอประเมินปัจจัยเสี่ยงในตะวันออกกลาง,ความคืบหน้าเจรจาการค้าไทย – สหรัฐ แนะนำพักเงินกลุ่มปลอดภัย-จ่ายเงินปันผลสูง “SCB,TISCO, MC, PRM, SAPPE, DIF” หุ้นเด่น PTTEP, TMAN
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมิน SET มีโอกาสปรับลดลงตามดัชนีภูมิภาคเช้านี้ทึ่ลดลงราว 0.8% -1.0% โดยวางแนวรับดัชนีที่ 1,050 จุด แนวต้าน 1,080 จุด ยังรอประเมินปัจจัยเสี่ยงในตะวันออกกลาง และความคืบหน้าการเจรจาการค้าไทย – สหรัฐ แนะนำพักเงินกลุ่มปลอดภัยและจ่ายเงินปันผลสูง เช่น SCB,TISCO, MC, PRM, SAPPE, DIF
ปัจจัยต่างประเทศเช้านี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หากมีการปิดช่องแคบฮอร์มุชจริง อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับสูงขึ้นถึงระดับ 90 – 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งทาง ตลท.ได้ออกมาตรการลดความผันผวนของตลาดหุ้นไทยด้วยการปรับลด Ceiling/Floor จาก 30% เหลือ 15% ชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 23 – 27 มิ.ย.
ล่าสุดรัฐสภาฯ อิหร่านได้อนุมัติปิดช่องแคบฮอร์มุช ที่เป็นจุดขนส่งน้ำมันราว 20% ของอุปสงค์ตลาดโลก ส่งผลให้เช้านี้ WTI Futures +2.5%, Down Jones Futures -0.40% ข้อมูลเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ วันอังคาร – พุธ ปธ.เฟดจะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส,วันพฤหัส US GDP Q1/68 และวันศุกร์ US PCE พ.ค.คาด 2.5% & เม.ย. 2.6% YoY
ประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้วันพุธติดตามผลการประชุม กนง. ซึ่ง Consensus คาดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75%
ส่วนปัญหาพรมแดนไทย – กัมพูชา ส่งผลให้เกิดวิกฤตศรัทธาต่อการทำงานของนายก ฯ ไทย กอรปพรรคภูมิใจไทยได้ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล แต่สถานการณ์การเมืองปรับดีขึ้น หลังพรรคเพื่อไทยยังได้เสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมให้บริหารงานต่อด้วยเสียงราว 261 เสี่ยง ซึ่งยังมากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ ที่ 248 เสียง อย่างไรก็ตามนายก ฯ ยังมีโอกาสถูกเครือข่ายภาคประชาชนร้องเรียนต่อศาลฎีกาในประเด็นจริยธรรม
ด้านตลาดหุ้นเช้านี้ MSCI Asia X Japan Index +0.06% WoW รอประเมินสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.5% WoW หลัง ธนาคารกลางจีนคงอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR) ไว้ที่ระดับเดิม และรอการประชุมโปลิตบูโรของจีนในเดือน ก.ค. ในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน ส่วนดัชนีนิเกอิ +1.5% หลัง BOJ คงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% และลดปริมาณการซื้อพันธบัตรจากเดิม 4 แสนล้านเยน/ไตรมาส เหลือ 2 แสนล้านเยน/ไตรมาส ซึ่งจะเริ่ม เม.ย.ปีหน้า
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดวันศุกร์ DJIA +0.08%, S&P500 -0.22%, Nasdaq -0.51% กลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลง นำโดย Nvidia -1.1% โดยปริมาณการซื้อขายผันผวนในช่วงการหมดสัญญาของดัชนีหุ้น และ Options ของดัชนี & หุ้นรายตัวส่วนข้อมูลเศรษฐกิจดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐ พ.ค. -0.1% MoM ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.13% นำโดยกลุ่มท่องเที่ยวและนันทนาการ +1% หุ้น TUI บริษัททัวร์ +6.5%, ประกันภัย +1.13% ขณะที่กลุ่มพลังงาน -0.6%
หุ้นเด่นแนะนำ PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 120.00 บาท) ได้รับ sentiment บวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังอิสราเอล-อิหร่านเปิดฉากโจมตีใส่กันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสหรัฐโดดเข้าร่วมสงครามโจมตีอิหร่านด้วยการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่ง ซึ่งจะยกระดับความเสี่ยงต่อการปิดช่องแคบฮอร์มุซที่จะถูกพิจารณาโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติของอิหร่าน และส่งผลกระทบ supply ของการส่งออกน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางมายังภูมิภาคเอเชีย โดยการขนส่งผ่านช่องแคบดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็น 20% ของความต้องการใช้ทั่วโลก
หุ้น TMAN* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 22.00 บาท) กำไรสุทธิ 1Q68 อยู่ที่ 122 ลบ.(-13%YoY, +12%QoQ) การอ่อนตัว YoY มาจาก Produxt Mix ที่เปลี่ยนไป(สัดส่วนยาสูงขึ้น) และแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาด อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงที่เหลือของปี การเติบโตของรายได้จะสามารถชดเชยปัจจัยลบดังกล่าวในไตรมาส1 ได้ โดย
ทาง TMAN* เอง ตั้งเป้าหมายในระยะ 5 ปีข้างหน้า(68-72) รายได้เติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10-15% ต่อปี และตั้งเป้าเป็น Top 5 ในตลาด OTC (Over-The-Counter) และ Top 10 ในตลาดร.พ. ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าปี 67 และ68 กำไรสุทธิของ TMAN* จะอยู่ที่ 491 ล้านบาท (+9%YoY) และ 544 ล้านบาท (+11%YoY)